จากกรณีสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ว่า ชาวบ้านในพื้นที่พบลูกช้างป่าพลัดหลงจากฝูง ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 65 ในพื้นที่ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านได้สร้างคอกไม้ไผ่ขนาดเล็ก เพื่อรอฝูงช้างป่าให้เข้ามารับลูกช้างป่าพลัดหลงตัวดังกล่าว แต่ยังไม่พบฝูงช้างป่ามารับแต่อย่างใด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ ต่อมานายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายไชยวุฒิ อารีย์ชน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ประสานงานขอสนับสนุนทีมสัตวแพทย์ ประจำ สบอ.3 (บ้านโป่ง) เข้าประเมินสุขภาพลูกช้างป่า พบเป็นลูกช้างป่าพลัดหลง เพศเมีย สีอมชมพู จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 1 เดือนเศษ น้ำหนักโดยประมาณ 130-150 กิโลกรัม มีสภาพอ่อนแรงมาก ขาดน้ำรุนแรง ถ่ายเหลว มีเยื่อเมือกซีด พบแผลหลุมในช่องปาก พบแผลแมลงวันวางไข่บริเวณปลายริมฝีปากล่างและใบหู พบรอยขีดข่วนบริเวณลำตัว จึงได้ทำการรักษาต่อเนื่อง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อขอเฮลิคอปเตอร์ ทำการเคลื่อนย้ายช้างป่าออกจากป่าโดยด่วน เนื่องจากพบรอยเท้าเสือเป็นจำนวนมาก เกรงว่าจะโดนทำร้าย ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 พร้อมด้วย นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักสัตว์ป่า และนายสัมพันธ์ งานประพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายไชยวุฒิ อารีย์ชน หน.อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หน.เขตรักษาพันธุ์สัตป่าสลักพระ นายพีระเดช สิงห์ประเสริฐ หน.อุทยานแห่งชาติพุเตย พร้อมเจ้าหน้าที่ รวม 30 นาย ร่วมกันออกปฏิบัติการช่วยเหลือลูกช้างป่าที่พลัดหลง

ด้าน พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผบ.กกล.สุรสีห์ พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิตย์ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ของทหารจาก กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กาญจนบุรี ทำการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าตัวดังกล่าว ในพื้นที่ป่าพิกัด 47P 0524240E 1654254N ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในการควบคุมของทีมสัตวแพทย์ได้สำเร็จ โดยใช้เวลาการบินประมาณ 30 นาที ก่อนลงจอด ที่โรงเรียนวัดคอกช้าง ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

ลุ้นระทึก! ฮ.บินช่วย ‘ลูกช้างป่าสีชมพู’ หายากกลางป่าลึก คาดถูกฝูงขับไล่เพราะสีแปลกตา

จากนั้นเคลื่อนย้ายลูกช้างโดยรถบรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นรถย้ายสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ซึ่งมีตู้ควบคุมอุณหภูมิและอุปกรณ์กู้ชีพเบื้องต้น เพื่อนำลูกช้างไปทำการรักษา ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อทำการวางแผนการรักษาฟื้นฟูลูกช้างต่อไป

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ช้างดังกล่าวเป็นลูกช้างธรรมดา ขณะนี้นำไว้ที่บึงฉวากแล้ว และจะดูแลและฟื้นฟูให้มีสุขภาพแข็งแรง จากนั้นจะนำปล่อยสู่ป่าต่อไป ยืนยันไม่ใช่ช้างเผือก.