เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สภ.หนองวัวซอ สั่งการให้ พ.ต.ท.ทศพล นนทะคำจันทร์ รอง ผกก.สส สภ.หนองวัวซอ นำกำลังจับกุมนายณัฐพงศ์ แก้วรักษา อายุ 23 ปี ในข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” หลังใช้มีดฟัน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ได้รับบาดเจ็บบริเวณปากต้องเย็บ 16 เข็ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ถนนหน้าบ้านผู้ต้องหา ต.โนนหวาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สิทธิพงษ์ ปัญจะนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กถูกคนคลั่งใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงนำกำลังตำรวจทั้งสายตรวจและตำรวจสืบสวน กู้ชีพเทศบาลตำบลภูผาแดง ออกไปตรวจที่เกิดเหตุ พบ ด.ญ.เอ ถูกคนร้ายฟันด้วยอาวุธมีดบริเวณริมฝีปากบนเป็นแผลเหวอะหวะเนื้อห้อยลงมา ฟันหน้าหักหล่นหาย 2 ซี่ เลือดไหลออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานไฟฟ้าของคนเจ็บล้มอยู่กลางถนน และพบมีดพร้าสำหรับตัดอ้อยจำนวน 1 เล่ม ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตำรวจได้ดักซุ่มอยู่บริเวณหน้าบ้านเพราะเชื่อว่านายณัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุต้องย้อนกลับมาบ้าน กระทั่งเช้าวันที่ 6 ก.ย. นายณัฐพงศ์ ได้กลับมาบ้านจริง ตำรวจจึงเข้าจับกุมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน

จากการสอบสวนนายณัฐพงศ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้มีดฟันด.ญ.เอ จริง โดยก่อนเกิดเหตุตนได้เสพยาบ้าเข้าไป 2 เม็ด จากนั้นได้ถือมีดตัดอ้อยพร้อมปั่นจักรยานออกไปตามถนนในหมู่บ้านเพื่อไล่ฟันคน ก่อนจะย้อนกลับบ้านพบ ด.ย.เอ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าผ่านหน้าบ้าน จึงใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนทำไปโดยไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน

ด้านนายบุญรอด (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พ่อด.ญ.เอ เล่าว่า ลูกสาวไม่เคยรู้จักกับนายณัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุ โดยลูกสาวขี่รถจักรยานไฟฟ้าเล่นไปตามถนนในหมู่บ้าน ผ่านบ้านนายณัฐพงศ์ ก็โดนมีดฟันทันที เข้าที่ริมฝีปากบนแพทย์ต้องเย็บ 16 เข็ม ฟันหัก 2 ซี่ ส่วนฟันซี่ที่เหลือก็หักครึ่ง แพทย์ต้องรอให้บาดแผลหาย จะได้ถอนฟันหน้าออกทั้งหมด ถึงตอนนี้ลูกสาวตนยังกินข้าวไม่ได้ ตนรู้สึกโกรธมาก ยิ่งรู้ว่าเมายาบ้าก็ยิ่งโกรธ ลูกสาวตนขี่จักรยานไฟฟ้าเล่น ไม่ได้ไปทำอะไร อยากให้ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนอยู่บ้านใกล้กับนายณัฐพงศ์ ซึ่งนายณัฐพงศ์ อาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะว่าชอบเสพยาบ้าและดื่มเหล้าเมาอาละวาด เคยเอามีดจี้แม่มาแล้ว ทำให้แม่และยายกลัวต้องหนีออกไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น ปล่อยให้นายณัฐพงศ์ อยู่บ้านตามลำพัง ก่อนเกิดเหตุนายณัฐพงศ์ ดื่มเหล้าเมาแล้วอาละวาดทุบบ้านตัวเอง ก่อนจะถือมีดตัดอ้อยออกมาปั่นจักรยานไปตามหมู่บ้านเพื่อหาเหยื่อ กระทั่งมาพบด.ญ.เอ ขี่จักรยานไฟฟ้าผ่านสวนมา จึงใช้มีดฟัน 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนหน้าอก แต่มีดไม่เข้าคาดว่าจะเป็นสันมีด ครั้งที่สองฟันที่หน้าและจะฟันซ้ำอีก สามีตนก็เลยกระโดดเข้าไปขวางกอดปล้ำสู้กัน ซึ่งนายณัฐพงศ์ ได้ทิ้งมีดวิ่งหลบหนีไป ชาวบ้านในละแวกนี้รู้สึกหวาดกลัวผวาตลอดเวลา เกรงว่าจะบุกเข้ามาทำร้ายคนในบ้าน

ส่วนนางสุวรรณ แก้วรักษา อายุ 59 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูก 4 คน นายณัฐพงศ์ เป็นลูกคนสุดท้อง นายณัฐพงศ์เคยไปทำงานโรงงานที่ จ.ระยอง แต่งงานมีลูก 1 คน แต่ได้แยกทางกับภรรยา ซึ่งภรรยาเอาลูกไปเลี้ยง ทำให้นายณัฐพงศ์ เสียใจมาก ได้กลับมาอยู่บ้านและพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง ทั้งขี่รถจักรยานยนต์ชนต้นไม้จนขาหัก กินน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ตนช่วยได้ทัน หลังจากนั้นก็หันมาดื่มเหล้า เสพยาบ้า ดื่มน้ำกระท่อม และเสพกัญชา และมักจะเอามีดมาไว้ใกล้ตัว ตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงพายายอายุ 90 ปี และลูกหลานแยกออกไปเช่าบ้านอยู่ ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว

“ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว แต่ก็นำกับข้าวมาแขวนไว้ประตูหน้าบ้านเพราะกลัวว่าลูกจะหิว และลูกก็มาก่อเหตุฟันเด็กได้รับบาดเจ็บ รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น แต่ยังไม่ได้พุดคุยกับพ่อแม่ผู้บาดเจ็บ แต่ถ้าจะให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ก็คงไม่มี เพราะตนไม่มีงานทำ ที่ผ่านมาตนพยายามพาลูกชายไปรักษาไปบำบัดอาการทางจิตมาแล้วหลายครั้ง แต่ลูกชายก็ไม่ดีขึ้น ซ้ำยังกลับมาติดยาเสพติดหนักมากขึ้นอีก จนมาก่อเหตุขึ้นเมื่อวานนี้” นางสุวรรณ กล่าว

เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจปัสสาวะนายณัฐพงศ์ พบว่ามีสารเสพติดในร่างกายและรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด จึงแจ้งข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.