เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 8 ก.ย. 66 ที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ขึ้นบัญชีผู้ทรงอิทธิพลไม่ให้เข้ามาเป็นผู้นำท้องถิ่น หลังเกิดเหตุการณ์ที่ จ.นครปฐม ว่า อย่าใช้คำว่าสั่งการ เราเพียงแต่จะต้องคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากจะต้องมีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำแล้ว จะต้องมีคุณธรรม ไม่ใช้อิทธิพลในการปกครองดูแลชาวบ้าน แต่ถ้าเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองดูแลชาวบ้าน ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบที่ จ.นครปฐม ได้อีก ไม่พอใจก็จะใช้อารมณ์

“นี่ขนาดเป็นแค่ลูกน้อง แล้วถ้าเป็นลูกพี่จะขนาดไหน และลูกน้องไม่มีทางที่จะไม่ทำตามลูกพี่ที่เลวๆ แบบนี้ เพราะฉะนั้น รมช.มหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และจังหวัด ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ ต้องช่วยผมจะต้องช่วยผม ไปขึ้นทะเบียนและคัดกรอง คนแบบนี้จะปล่อยให้อยู่ในสังคมและบ้านเมืองเราไม่ได้ เพราะประชาชนเดือดร้อน เอาถึงขั้นที่จะเอาชีวิตกันเลย มันไม่ได้ บ้านเมืองเรามีขื่อมีแปร จะต้องทำให้เกิดความเข้มข้น ความจริงแม้จะมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เขาก็ไม่ให้พกไปในที่ชุมชนและที่สาธารณะห้ามบรรจุกระสุน ไม่ใช่ว่าพอมีใบอนุญาตพกปืนแล้วจะพาไปไหนมาไหนก็ได้ ประเทศไทยไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน ทำไมจะต้องพกปืน ถ้าเอาไปเพื่อฝึกฝนหรือเป็นการกีฬาก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอประวัติบุคคลเหล่านี้หรือไม่ รมว.มหหาดไทย กล่าวว่า จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าประชาชนเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การนำของอันธพาลเหล่านี้

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ตนได้รับรายงานจากทางจังหวัดนครปฐมแล้ว ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้ “กำนันนก” มามอบตัวแล้ว และคงจะมีการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน คือหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเราก็ต้องดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ว่าจะปล่อยไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด.