เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ร.ต.อ.เสกสรร เรืองฟทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตถูกฝังอยู่บริเวณริมตลิ่งของคลองในหมู่บ้านตายา หมู่ 1 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฮิลาลหะมัร ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าผ่านสวนยางพาราและสวนผลไม้ที่ปลูกแบบผสมผสานจากถนนในหมู่บ้านเข้าไปประมาณ 700 เมตร พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่บริเวณใกล้หลุมฝังศพ หลังช่วยกันขุดเนินทรายซึ่งอยู่ด้านหลังของขนำในสวนทุเรียน ประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงกันชาวบ้านออกห่างก่อนเข้าตรวจสอบ

ตรวจสอบภายในหลุมดินดังกล่าว พบศพชายสภาพนอนคว่ำหน้า ใส่เสื้อยืดโปโลสีฟ้าสวมผ้าโสร่งลายหมากรุกสีน้ำตาล ที่ศีรษะมีกระสอบข้าวสารสีขาวคลุมและใช้เชือกฟางมัดปลายกับลำคอ มือและเท้าทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกฟาง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เจ้าหน้าที่จึงมอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฮิลาลหะมัร นำศพส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา และจากการตรวจสอบบริเวณขนำ พบร่องรอยเท้าและเศษผ้าส่วนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปพิสูจน์ทางกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์

ต่อมามี น.ส.แยนะ สามะ อายุ 60 ปี มาดูศพพร้อมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตคือ นายเจ๊ะลง แบลือแบ อายุ 71 ปี สามีตนเอง เป็นชาว ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีอาชีพเป็นนายหน้ารับซื้อทุเรียน มานานกว่า 3 ปี โดยได้เข้าแจ้งความคนหายไว้กับตำรวจ สภ.รือเสาะ ก่อนหน้านี้ ภายหลังหายตัวออกจากบ้านพักเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจยย.ฮอนด้า เวฟสีแดงดำ ทะเบียน 1 กญ 2649 นราธิวาส ออกไปจากบ้าน โดยบอกทางบ้านว่าจะเดินทางไปดูทุเรียน จากนั้นก็ได้หายไปและมาพบศพในวันนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญๆหลายรายการ คาดว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอย่างน้อยมีด้วยกัน 2 คนขึ้นไป โดยเจ้าหน้าที่จะขอความร่วมมือเชิญเจ้าของสวนจุดเกิดเหตุมาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ แต่พบว่าขณะนี้เจ้าขอสวนได้หายออกไปจากบ้าน ซึ่งตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย ส่วนสาเหตุในเบื้อต้นคาดว่า น่าจะเป็นความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว ที่อาจจะเกี่ยวโยงกับการเป็นนายหน้าค้าผลไม้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป