จากกรณีที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ทำหนังสือประสานไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เพื่อโอนฝากขังตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว มายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมทำหนังสือไปยังกรมราชทัณฑ์เพื่อขอย้ายผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย จากเรือนจำกลางสมุทรสงคราม มาฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่ามีขบวนรถของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีการระบุข้อความข้างตัวรถว่าเรือนจำกลางสมุทรสงคราม ทั้งยังมีรถยนต์ซึ่งปิดข้อความว่ากองบังคับการปราบปราม นำหน้าขบวนรถของกรมราชทัณฑ์และปิดท้ายขบวน ก่อนขบวนรถดังกล่าวจะมุ่งหน้าเข้าภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผยว่า เมื่อทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับตัวตำรวจทั้ง 6 นาย เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่และผู้ต้องขังเข้า-ออกเรือนจำ พ.ศ. 2561 ได้แก่ ตรวจสอบชื่อและนามสกุลของผู้ต้องขัง เลขประจำตัวประชาชน หรือเอกสารแสดงตนของผู้ต้องขังเท่าที่ทราบ ตรวจข้อหาหรือฐานความผิดผู้นั้นได้กระทำ ดำเนินการบันทึกลายนิ้วมือหรือสิ่งแสดงลักษณะเฉพาะของบุคคล และตำหนิรูปพรรณ บันทึกสภาพของร่างกายและจิตใจ ความรู้และความสามารถ และรายละเอียดอื่นตามที่กำหนดในระเบียบกรมราชทัณฑ์

จากนั้นจะเข้าสู่การกักโรคโควิด-19 จำนวน 10 วัน และเมื่อครบการกักโรคแล้ว จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง ว่าทั้งหมดจะได้ไปอยู่แดนขังใด โดยเบื้องต้นจะไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งหมด อาจจะมีการจับแยกเป็นคู่ และยืนยันว่าตำรวจทั้ง 6 นาย จะไม่ได้อยู่แดนขังเดียวกับกำนันนกแน่นอน.