จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวงจรปิดว่า “ผู้ใหญ่บ้าน” บุกร้านอาหารดังย่านลำลูกกา โวยลั่น! “จะเป็นมิตรหรือจะเป็นศัตรู” #แอดครับ เหตุเกิด แถวๆ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา ช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เรื่องเริ่มต้นมาจากมีถุงขยะโยนมาที่ร้าน พอเราโทรถามว่าโยนขยะมาใส่ร้านผมทำไม ผู้หญิงมีอายุรับสาย ผม: สวัสดีร้านผู้ใหญ่…นะครับ พนักงานร้าน : ค่ะ ร้านผู้ใหญ่.. ค่ะ ผม: โทรจากร้านข้างๆนะครับ พนักงานร้าน : เออมีไร ทำไม ผม : มีขยะโยนมาจากร้านพี่อ่ะครับ ไม่แน่ใจเด็กในร้านหรือใครโยนมา ที่ขวดน้ำมีชื่อร้านพี่ด้วย โยนมาสวนหน้าสระข้างร้าน พนักงานร้าน : เออทำไมขยะมันทำไม ไม่มีใครโยนเข้าไปบ้านมึงหรอก ผม : ผมแค่แจ้งให้ทราบขยะร้านพี่โยนเข้ามา ที่ขวดน้ำก็เป็นชื่อร้านพี่ พนักงานร้าน : ใครเขาจะไปโยน ผม : อั้นนี้ผมแค่แจ้ง แต่ถ้ามีอีกผมจะแจ้งตำรวจนะครับ

ซึ่งหลังจากนั้น ไม่ถึง 1 ชั่วโมง เกิดเรื่องทันทีตามคลิป โดนด่า โดนว่า เขามาในร้านพร้อมขู่ ว่าอยู่มานานรู้ไหมกูเป็นใคร แถวนี้กูรู้จักหมดแหละ ตำรวจคูคต สจ. สท. สอ หลายสอมากมันก้อง พูดทั้งในร้านนอกร้าน เอาจริงๆ เขาพูดแบบนี้ทีเเรกก็กลัวไม่กล้าจะไปโรงพัก เพราะเขาบอกรู้จักหมด ตำรวจมากินเลี้ยงกันที่บ้านกูกูสนิทหมด!! ซึ่งเด็กในร้านก็กลัว ร้านผมเป็นร้านกาแฟ ซึ่งไม่เคยไปวุ่นวายกับร้านเขาเลย เขาชี้หน้าด่าเด็กว่าบ้านพวกมึงอยู่ไหนกัน (ตามในคลิป) พอเด็กบอกเชียงราย เขาก็บอกว่า เชียงรายกูมีพวกเยอะ เขาพยายามข่มขู่ จนสติหลุดทุกคนกลัวมาก หลังเกิดเหตุลูกน้องของผู้ใหญ่เอาขวานมาวิ่งไล่ฟันคนในร้านผม ผมกังวล ผมไม่อยากมีปัญหากับพวกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน กลัวเป็นแบบพวกกำนันนก ที่พอมีปัญหากับพวกเขาครอบครัวเราจะอยู่กันไม่ได้ หลังเกิดเหตุผมได้ไปแจ้งความที่ สภ.คูคต ทางตำรวจถามว่าจะให้ทำยังไงเขาเป็นผู้ใหญ่บ้าน ผมเลยไม่รู้จะทำไงต่อ เลยมาขอให้ทาง #เพจสายไหมต้องรอด ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้พวกผมด้วยครับ กลัวความไม่ปลอดภัยครับ #ฝาก พี่ชาดา รมช.มหาดไทย และพี่ๆตำรวจ ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยนะคะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 1

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เดินทางมาที่ร้าน BrewSeasonsCoffeeCafe ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้กำลังใจและประสานในส่วนเกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยพบกับนายธนะศักดิ์ โคกครุฑ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านกาแฟดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกเรือของสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง

นายธนะศักดิ์ เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ร้านนี้ตนเองก่อสร้างและเพิ่งเปิดให้บริการลูกค้าเพียงเดือนกว่าๆ โดยร้านตนเองและร้านครัวผู้ใหญ่มีที่ดินติดกัน โดยตั้งแต่เปิดบริการมา ที่บริเวณสนามหญ้ามักจะมีน้ำแกงสาดเข้ามาแต่เราก็ไม่รู้ว่าเจตนาหรือไม่เจตนา ก็ไม่ได้ว่าอะไร กระทั่งวันที่ 22 ก.ย. มีถุงขยะถูกโยนเข้ามาในสนามหญ้าของตนเอง ภายในมี ขวดน้ำ เศษข้าว ขวดเครื่อดื่มชูกำลัง โดยในขวดสกีนว่าครัวผู้ใหญ่ จากนั้นตนเองก็โทรไปที่ร้านครัวผู้ใหญ่ จากนั้นก็มีคนรับสายตนเองก็บอกว่าโทรมาจากร้านข้างๆ มีขยะถูกโยนเข้ามาที่ร้าน หลังจากนั้นปลายสายก็บอกว่าไม่มีใครไปทิ้ง ตนเองจึงบอกว่าผมแค่แจ้งว่ามีขยะโยนมา ถ้าไม่มีใครจัดการเรื่องขยะ ตนเองจะต้องดำเนินการตามกฏหมาย หรือตามระเบียบของสาธารณะสุข หรือส่วนเกี่ยวข้องนะครับ กระทั่งตนเองทำงานบินไปถึงเชียงราย ทางเด็กที่ร้านก็โทรฯมาบอกว่าถูกขวานไล่ฟัน

นายธนะศักดิ์ เปิดเผยต่อว่า ตนเองยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบโทรฯแจ้ง 191 แต่ไปติดตำรวจเชียงราก ก่อนที่ประสานตำรวจสภ.คูคต ไปในที่เกิดเหตุ จากนั้นตนเองจึงรีบให้ลูกน้องส่งกล้องวงจรปิดที่ร้านมา เพื่อดูสถานการณ์ที่ร้าน ก็เห็นตามที่คลิปปรากฏคือ อดีตผู้ใหญ่บ้านเจ้าของร้านอาหารที่อยู่ติดกัน เข้ามาโวยวายที่ในร้านพร้อมกับชี้หน้าด่าเด็กในร้ายตน นอกจากนี้ลูกน้องผู้ใหญ่ก็จะเข้ามาทำร้ายเจ้าของที่ดิน ที่ตนเองซื้อต่อมา หลังเข้ามาช่วยเจรจา พร้อมกับคว้าขวานไล่ฟัน ซึ่งมีคนถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ได้

“โดยหลังจากตนเองลงเครื่องเสร็จ จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.คูคต ทันที เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อง เพราะตอนเกิดเหตุอดีตผู้ใหญ่บ้านบอกว่า กูรู้จักหมดตำรวจคูคต ทั้งนี้หลังสอบสวนเสร็จตำรวจที่สอบปากคำยังบอกอีกว่าแล้วให้ทำอย่างไร ตนเองจึงตัดสินใจส่งคลิปเหตุการณ์ให้เพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น และหากเกิดเหตุร้ายจะได้รู้สาเหตุ ซึ่งตนเองยังมีความเห็นใจพื้นที่ข้างเคียง ขนาดที่ว่าตนเองทำรั้วด้านข้างยังไม่ทำรั้วกั้นทึบ เพราะกลัวว่าลมจะไม่เข้าไปที่ลูกค้านั่งรับประทานอาหารของครัวผู้ใหญ่” นายธนะศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ทิตินันท์ เรียงนาม อายุ 40 ปี ผู้ดูแลร้าน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุน่ากลัวมาก เพราะตอนที่ผู้ใหญ่เดินเข้ามาบอกว่า กูมีปืนมานะ มึงจะลองซักหน่อยมั้ยละ กู้ผู้ใหญ่ และเป็น สจ. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ทั้งน้ำแกง ทั้งเศษขยะ แต่ครั้งนี้เป็นถุงขยะ ซึ่งเจ้าของร้านเพียงโทรฯไปแจ้ง ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

ทางด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า พฤติกรรมแบบนี้คล้ายๆกับที่เพิ่งเกิดขึ้นไป พฤติกรรมแบบนี้น่าจะหมดไปได้แล้ว บ้านเมืองเรามีกฎหมายเราดูจากคลิปเข้าไปแสดงการข่มขู่เสียงดัง และยังมีลูกน้องหรือไม่อีกคนที่กระโดดข้ามมาเพื่อจะทำร้ายบุคคลของร้านที่เกิดเหตุ คำถามคือหลังจากผู้เสียหายไปแจ้งความ ทำไมพนักงานสอบสวนไม่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เรื่องนี้ ผกก.สภ.คูคต และผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ต้องมีคำตอบ เพราะเหตุเช่นนี้ต้องมาตรวจสอบ หรือต้องรอให้เกิดเหตุร้ายแรงกว่านี้

“ตนเองไม่ได้มีหน้าที่มาปราบปราม อยากมาดูให้กำลังใจน้องเขาเพราะน้องเขากลัวมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่สภ.คูคต และหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เรื่องที่เกิดขึ้นสภ.คูคต ได้รายงานไปยังที่อำเภอลำลูกกาหรือไม่ มีการแจ้งไปยังจังหวัดปทุมธานีหรือไม่ พฤติการณ์เช่นนี้เข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือไม่ กระทรวงมหาดไทยต้องรีบกำหนดนโยบายว่ามีการรายงานหรือยัง ทำไมร้อยเวรไม่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ หรือต้องให้มีเหตุเช่น จ.นครปฐม ดูคลิปสิมันมีการไล่ทำร้ายกัน มีการข่มขู่ เพราะฉะนั้นทางจ.ปทุมธานี ต้องตอบคำถามผู้ใหญ่ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่ว่าไปแจ้งความแล้วปล่อยกลับ” นายเอกภพ กล่าว.