จากกรณีมีการรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด โดย นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันก ในฐานะกรรมการบริษัทฯ มอบอำนาจให้ น.ส.ปิยะพลอย พลอยพันธ์ ผู้รับมอบอำนาจ ยื่นจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการและจำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีการเพิ่มกรรมการเข้าใหม่ 2 คน คือ นางรินรวี จันทร์คล้าย และนางสุวีณา จันทร์คล้าย จากเดิมนายประวีณ จันทร์คล้าย เป็นกรรมการเพียงคนเดียว ทำให้ในปัจจุบันมีกรรมการรวมทั้งหมด 3 คน อีกทั้งการยื่นจดทะเบียนฯ ดังกล่าว บริษัทได้แนบหนังสือรับรองการจดทะเบียนระบุว่า บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2566 ณ บ้านเลขที่ 41/2 หมู่ที่ 1 ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม 3 คน นับจำนวนหุ้นได้ 300,000 หุ้น โดยมี นายประวีณ จันทร์คล้าย เป็นประธานที่ประชุม ขณะที่ในข้อเท็จจริงนั้น นายประวีณ ยังอยู่ระหว่างการฝากขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 25 ก.ย. กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวตามที่มีสื่อเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้มีการลงนามลายมือชื่อในเอกสารคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด และหนังสือมอบอำนาจยื่นสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม โดยลงรับเมื่อวันที่ 19 ก.ย.66 และกล่าวว่า กำนันนกได้ออกไปเซ็นเอกสารอยู่ภายนอกเรือนจำนั้น โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับการยืนยันจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 เวลา 09.30 น. ทนายความของนายประวีณได้เข้าเยี่ยมและยื่นคำร้องขอให้นายประวีณลงนามลายมือชื่อในเอกสารคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด และหนังสือมอบอำนาจยื่นสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการธุรกรรมบริษัท

ทางเรือนจำฯ จึงได้นำเอกสารที่ปรากฎในสื่อไปให้นายประวีณลงนามลายมือ เพื่อยืนยันว่าเป็นการลงนามโดยตนเองจริงในเอกสารดังกล่าว ซึ่งนายประวีณมิได้ออกไปเซ็นเอกสาร หรือร่วมประชุมตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า นายประวีณ หรือ กำนันนก ยังคงถูกควบคุมอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน ทั้งนี้ หลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกราย สามารถติดต่อสื่อสารกับทนายความเพื่อดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมส่วนตัวของผู้ต้องขังได้เป็นปกติ โดยการลงลายมือชื่อในเอกสารทุกประเภทของผู้ต้องขังนั้น ทนายความจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องขอต่อทางเรือนจำ เพื่อขอให้ผู้ต้องขังลงนามลายมือชื่อทุกครั้ง เป็นไปตามกฎระเบียบที่กรมราชทัณฑ์กำหนดไว้.