ภายหลังจากกรณีข่าวสะเทือนวงการสีกากี ที่มีชื่อตำรวจ 8 นาย เกี่ยวพันกับคดีเว็บพนันออนไลน์ ก่อนมีการขุดคุ้ย เป็นลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นที่จับตาและพากันตั้งข้อสังเกตการทำงานของตำรวจ ว่าจะตรงไปตรงมาหรือไม่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสพูดถึงเรื่องดังกล่าวอย่างมาก ภายหลังจากที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “รบเถิด..อรชุน..” ผมติดตามความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดมากนัก ที่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดเพราะรู้ว่า สักวันหนึ่ง สตช. ต้องเดินทาถึงจุดนี้ เพียงแต่จะเป็นวันไหนเท่านั้นเอง เพราะผมเคยกล่าวว่า ประเทศเราเป็น“รัฐตำรวจไปแล้ว”

สถานการณ์ในสตช.วันนี้ เหมือนการรบใน ในมหาภารตยุทธ์ “ภควัคคีตา” คัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู ซึ่งเป็นการสู้กันของฝ่าย“ปาณฑพ” และ ฝ่าย“เการพ”ในสมรภูมิทุ่งกุรุเกษตร เมื่อถึงคราวที่ “อรชุน “เกิดใจอ่อน ไม่อยากทำสงครามกับพี่-น้อง และอาจารย์ที่เคยสอนวิชาให้ตนเอง พระกฤษณะ ซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ จึงกล่าวเทศนาให้กำลังใจแก่อรชุน ว่า…“รบเถิด..อรชุน…” อรชุน จึงตัดสินใจเข้าทำสงครามกับญาติพี่น้องและอาจารย์ของตัวเอง จนได้รับชัยชนะ

สงครามในสตช.ครั้งนี้ ก็เป็นการทำสงครามกันเองในวงการตำรวจ ผมไม่อาจทราบว่า ใครเป็น อรชุน และไม่อาจกล่าวได้ว่าตำรวจคนไหนอยู่ในกลุ่มฝ่ายปาณฑพ และไม่อาจกล่าวได้ว่า ตำรวจคนไหนอยู่ในกลุ่ม ฝ่ายเการพ (ในมหาภารตะ ภควัคคีตา)

มองไกลๆ อาจกล่าวได้ว่า ฝ่าย“บิ๊กโจ๊ก” น่าจะอ่าน“ภควัคคีตา” จึงประกาศชักธงรบเต็มที่ แต่แทนที่พระกฤษณะจะกล่าวว่า “รบเถิด อรชุน” ผู้พูดกลับกลายเป็น ทนายอนันตชัย ไปเสียฉิบ ฝ่ายนี้หากจะพ่ายแพ้ในสงครามก็เพราะกำลังรบฝ่ายนี้ “พูดมาก” และพูดเกินความจริง มีหนึ่งพูดไปถึงสิบ จะเข้าทำนอง“เดินเบี้ยผิดตัวเดียวแพ้ทั้งกระดาน”

ฝ่ายตรงข้าม“บิ๊กโจ๊ก” เงียบ พร้อมรบทุกเวลา รอเวลาออกอาวุธหนักเท่านั้น ฝ่ายนี้ก็น่าจะอ่านการรบใน”เจ้าผู้ปกครอง” ของ มาเคียเวลลี่ ว่าสุดท้ายแล้วจะจัดการกับศัตรูอย่างไร

ประชาชนอย่างเรา “อย่าเอามัน” มองการต่อสู้ครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์ ว่า เรา และ ประเทศชาติได้อะไรจากสงครามในสตช. อย่าว่าผมเลย ผมว่า ประชาชนเองก็เอามันส์เป็นเกมส์ ยังไม่ได้สาระอะไรในสงครามครั้งนี้ ประชาชนยังเลือกข้าง ทำนอง “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย” ขอเวลาไปอ่านสามก๊กอีกรอบดีกว่า..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ