เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์หนุ่มคนไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธฮามาส ทำร้าย หลังพยายามหนีเอาชีวิตรอด ขณะรับประทานอาหารมื้อเย็นกับเพื่อนร่วมงาน  แต่สุดท้ายถูกยิงเสียชีวิตนั้น 

นางสาวรุ่งทิวา อายุ 31ปี ภรรยาของแรงงานไทยอายุ 39 ปี ที่ถูกกองกำลังติดอาวุธสังหารเสียชีวิต ชาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  กล่าวว่า  ตนได้อยู่กินกับสามีมากว่า 4 ปีต่อมาจากด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19 ทำให้ครอบครัวต้องมีหนี้สินจึงต้องตัดสินใจสมัครทำงานยังประเทศอิสราเอล ทำงานเป็นคนงานเก็บผลผลิตในสวนกล้วยและทุกๆวัน ต่างก็จะพยายามหาโอกาสโทรพูดคุยติดต่อกันแทบวันเพื่อคลายเหงา

ต่อมาเพื่อนของสามีโทรติดต่อกลับมาแจ้งว่าสามี  ได้ถูกกลุ่มก่อการร้าย บุกเข้ามาในบริเวณแคมป์ที่พักและได้จับตัวลากไปกับพื้นจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เพียงคำเดียวก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น โดยที่กลุ่มเพื่อนๆ  ที่ร่วมวงรับประทานอาหารด้วยกัน ต่างก็พยายามหนีเอาชีวิตรอดออกจากบริเวณดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนออกมาได้ เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายจึงได้ทราบว่าสามีได้ถูกยิงเสียชีวิตจากกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวแล้ว

นายสิทธิชัย  ซึ่งเป็นลุงเขย อายุ 64 ปี กล่าวว่า  เสียดายต่อการเสียชีวิตของหลานเขยคนนี้มาก เพราะเป็นคนที่อัธยาศัยดีต่อครอบครัว และเพื่อนบ้าน พยายามทำงานหนักเอาเบาสู้ ต้องการให้ชีวิตความเป็นที่ดีขึ้น แต่ภาระหนี้สินที่สะสมมาตั้งช่วงแพร่ระบาดโควิด 19 และปัญหาการกินอยู่ทำให้ต้องตัดสินใจกู้เงิน เพื่อเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ขึ้น ทั้งนี้ในหมู่บ้านละแวกยังมีชาวบ้านอีกไม่น้อย ที่เดินทางไปทำงานยังประเทศอิสราเอลก็อดเป็นห่วงถึงความปลอดภัยไม่ได้ จึงอยากขอวิงวอนทางภาครัฐช่วยเหลือ ให้ความปลอดภัยต่อชีวิตคนงานไทยที่เหลือด้วยหากจะให้เดินทางกลับมาเพื่อรักษาชีวิตในขณะนี้แต่ก็อดคิดถึงหนี้สินที่กู้ยืมมา เพื่อการเดินทางไปทำงานหนี้สินภายในครอบครัวเดิมก่อนหน้านี้

สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือเยียวยา นั้น ขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนมเดินทางมาปลอบขวัญ และให้กำลังพร้อมทั้งแจ้งถึงสิทธิประโยชน์จากการสูญเสียสามี

โดยน.ส.รุ่งทิวา กล่าวทิ้งท้ายว่า จากนี้ตนก็จะรอฟังคืบหน้าถึงการนำร่างสามีกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศล ตามประเพณี คาดว่าจะนำร่างไปฌาปนกิจศพ ยังบ้านเกิดของสามีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป.