เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงมาตราการดูแลความปลอดภัยสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยว่า ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบกันในประเทศ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงจับคนไทยเป็นตัวประกัน ทั้งได้กำชับทั้งตำรวจนครบาลและตำรวจสันติบาล 3 เรื่องการจัดรถสายตรวจประจำจุดและดูแลความปลอดภัยสถานทูตฯ และตัวของเอกอัคราชทูตอิสราเอล รวมถึงบ้านพักด้วย

ส่วนสถานที่ที่มีกลุ่มชาวอิสราเอลเข้าร่วมประเทศไทยเช่น โบสถ์ยิว รวมถึงสั่งการให้ตำรวจสันติบาลสืบสวนหาข่าวประสานการข่าวอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ของนานาประเทศ พร้อมกำชับในส่วนของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในเรื่องการเข้าประเทศของกลุ่มบุคคลสัญชาติเลบานอน อิหร่าน ปาเลสไตน์ รวมถึงสัญชาติที่เป็นสถานที่เกิดทั้ง 3 สัญชาติ

จากการข่าวตอนนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไรในประเทศไทย แต่ก็เฝ้าจับตาและระมัดระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมดูว่าได้สั่งจับตาและดูแลความปลอดภัยทั้ง 2 ส่วน ทั้งกลุ่มปาเลสไตน์และอิสราเอล ย้ำว่าไทยไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้ง จึงสั่งให้ดูแลความปลอดภัยทั้งสองส่วน ยืนยันว่าวันนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ ส่วนพื้นที่เฝ้าจับตามากที่สุดคือพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะมีสถานที่ที่กลุ่มคนเข้าไปไหว้เช่น โบสถ์ยิว พร้อมให้สั่งติดตามดูความเคลื่อนไหวความคิดเห็นของกลุ่มมุสลิมชีอะห์ วันนี้ยังไม่มีอะไรรุนแรงในประเทศไทย

ทั้งนี้ ในส่วนของสถานเอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประไทย ยังไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ เพราะตำรวจดูแลเต็มที่อยู่แล้ว และตนเองได้สั่งไปตั้งแต่วันแรกทำให้สถานทูตฯ รู้สึกอุ่นใจและเชื่อมั่น ส่วนกลุ่มที่เห็นต่างของมุสลิมวันนี้ยังไม่พบ และยังไม่มีการออกมาเรียกร้องอะไรในประเทศไทย ซึ่งจากการข่าวของพี่น้องชาวมุสลิม เท่าที่ติดตามยังไม่มีอะไร.