จากกรณีกลุ่มติดอาวุธฮามาสก่อเหตุโจมตีในประเทศอิสราเอล ส่งผลให้แรงงานไทยได้รับผลกระทบและถูกจับเป็นตัวประกันนับสิบราย บางรายถูกยิงบาดเจ็บและยังไม่ทราบชะตากรรมอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ครอบครัวและญาติๆ ของแรงงานในพื้นที่ จ.นครพนม ต่างกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นห่วงญาติและสามีที่เดินทางไปทำงานที่ดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่เลขที่ 133 บ้านนาทุ่งทอง หมู่ 16 ต.พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านภรรยาของนายชาตรี ชาศรี แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาส บุกโจมตี โดยนายชาตรี ถูกยิงเข้าที่สะโพกกระสุนทะลุออกต้นขาได้รับบาดเจ็บ และกำลังทหารของอิสราเอลสามารถบุกเข้าทำการช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว

นางวราชินี นามบุญแผง อายุ 37 ปี ภรรยาของนายชาตรี เปิดเผยว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับนายชาตรี มาประมาณ 18 ปี แล้ว และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านี้สามีได้นำรถยนต์กระบะไปเข้าไฟแนนซ์ได้เงินมา 120,000 บาท เพื่อเป็นค่าคอมมิชชั่น สำหรับเดินทางไปทำงานด้านการเกษตรสวนมะเขือเทศที่ประเทศอิสราเอล ผ่านกรมแรงงานถูกต้องเมื่อปี 2562 นาน 4 ปี แล้ว ได้เงินเดือน 54,000-56,000 บาท ใกล้จะครบสัญญาปลายเดือน เม.ย. 2567

ต่อมาวันที่ 7 ต.ค. ญาติที่บ้านนาขาม ซึ่งเป็นบ้านของญาติทางสามี เห็นข่าวทางโซเชียล จึงติดต่อตนมาแจ้งว่าสามีถูกยิงได้รับบาดเจ็บช่วง 4 ทุ่ม รู้ข่าวทีแรกถึงกับช็อกทันทีที่ทราบ สงสารสามีซึ่งเป็นลูกกำพร้าและเป็นเสาหลักของครอบครัวทำงานเพียงคนเดียวหาเงินเลี้ยงทั้งครอบครัว อีกทั้งลูกชายคนเล็กอายุแค่ 4 ขวบ ก็ยังไม่เคยเห็นหน้า ได้แต่เห็นหน้าและพูดคุยกับลูกกันทางวิดีโอคอลเท่านั้น

“นาทีที่สามีถูกยิง ขณะไปยืนปัสสาวะในแคมป์คนงาน ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาราวๆ 10 กิโลเมตร โดยคนร้ายกราดปืนยิงทะลุกำแพงขณะที่สามีตนกำลังทำธุระในห้องน้ำ กระสุนถูกสะโพกทะลุต้นขา 1 นัด หลังเกิดเหตุ นอนเจ็บร้องครวญครางรอการช่วยเหลืออยู่ร่วม 2 วัน กระทั่งทหารอิสราเอลมาพบและนำตัวส่งโรงพยาบาลช่วงตีหนึ่ง วันที่ 8 ต.ค.” นางวราชินี กล่าวทั้งนํ้าตา

นางวราชินี กล่าวต่อว่า ล่าสุดสามีได้วิดีโอคอลมาบอกว่าอาการปลอดภัยและถึงมือหมอแล้ว และยังบอกว่าอยากกลับมาบ้านอยู่พร้อมกับลูก 2 คนแล้ว เพราะใช้หนี้สิ้นหมดแล้ว ก็อยากให้สามีมาอยู่กับลูกโดยเร็ว เมื่อวานนี้ทางนายนพพร มานะ แรงงาน จ.นครพนม ได้มาแจ้งสิทธิให้ทราบว่า จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนผู้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศกรณีบาดเจ็บ ก็รู้สึกดีใจมาก.