เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ร่วมกับ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทือบิงเกน ประเทศเยอรมนี นำโดย Dr.Gustavo Darlim และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าวผลการศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์ของ อัลลิเกเตอร์สายพันธุ์ใหม่ของโลก “อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส (Alligator munensis) หรืออัลลิเกเตอร์แม่น้ำมูล” โดยมีนายนพดล พลเสน เลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมด้วยนายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ โฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรฯ นายฐิติพันธ์ จูจันทร์โชติ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ในฐานะโฆษกกรม นายปรีชา สายทอง ผอ.กองคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ และนายกันตภณ สุระประสิทธิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแถลงข่าว  

นายฐิติพันธ์ กล่าวว่า กรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งจาก ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา (ทสจ.) เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2548 ขอให้ไปตรวจสอบซากดึกดำบรรพ์ และทีมสำรวจได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2548 ที่เก็บรักษาไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนสูง พบว่า เป็นกะโหลกสัตว์โบราณ 1 ชิ้น กรามสัตว์โบราณ 2 ชิ้น และกระดูกสัตว์โบราณ 5 ชิ้น และได้ลงพื้นที่บ้านเจ้าของที่ดิน นายสมพร โนกลาง บ้านสี่เหลี่ยม ต.ใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา ขนาดความกว้าง 8 เมตร ความยาว 8.4 เมตร ความลึกประมาณ 2 เมตร ตัวอย่างที่บ้านนายสมพร มีจำนวน 3 กล่อง โดยมากเป็นเศษกระดูกแตกหัก จนไม่สามารถศึกษาได้

นายฐิติพันธ์ กล่าวว่า ซากดึกดำบรรพ์กะโหลกอัลลิเกเตอร์ที่พบ มีสภาพเกือบสมบูรณ์ในชั้นตะกอนทรายลึกลงไปจากผิวดินประมาณ 2 เมตร คาดว่ามีอายุในช่วงไม่เกินสมัยไพลสโตซีนตอนกลาง หรือประมาณ 230,000 ปีก่อน หรืออาจมีอายุอ่อนกว่านั้น พบว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลก ถูกศึกษาและตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Scientific Reports ทีมนักวิจัยได้ศึกษาตัวอย่างโดยเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่เคยศึกษามาก่อน 19 ตัวอย่าง ประกอบด้วยตัวอย่างชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว 4 ชนิด และตัวอย่างในปัจจุบัน อีก 2 ชนิด คือ อัลลิเกเตอร์อเมริกา (Alligator mississippiensis) และอัลลิเกเตอร์จีน (Alligator sinensis)

“โดยผลการศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์อัลลิเกเตอร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกจากประเทศไทย ที่ถูกค้นพบที่บ้านสี่เหลี่ยม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส (Alligator munensis) หรืออัลลิเกเตอร์แม่น้ำมูล โดยตั้งชื่อตามแหล่งค้นพบใกล้กับแม่น้ำมูล” นายฐิติพันธ์ กล่าว

ด้านนายกันตภณ กล่าวว่า อัลลิเกเตอร์มีลักษณะคล้ายกับจระเข้ แตกต่างที่อัลลิเกเตอร์มีจะงอยปากเป็นรูปตัวยู ในขณะที่จระเข้มีจะงอยปากเรียวแหลมเป็นรูปตัววี และเมื่อปิดปากจระเข้จะเห็นฟันทั้งบนและล่าง ในขณะที่อัลลิเกเตอร์จะเห็นเฉพาะฟันบนหรือแทบไม่เห็นเลย โดยในปัจจุบันพบจระเข้มีหลายสายพันธุ์และพบได้เกือบทั่วโลก ในขณะที่อัลลิเกเตอร์พบเหลืออยู่เพียง 2 สายพันธุ์เท่านั้น คือ อัลลิเกเตอร์อเมริกา (Alligator mississippiensis) พบเฉพาะบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา และอัลลิเกเตอร์จีน (Alligator sinensis) พบเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำแยงซี ประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มาก

นายกันตภณ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันข้อมูลด้านการอพยพย้ายถิ่นที่อยู่ของอัลลิเกเตอร์ระหว่างเอเชียและอเมริกา ยังคงเป็นปริศนาว่าเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเส้นทางการอพยพเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของอัลลิเกเตอร์ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าถิ่นที่อยู่ของอัลลิเกเตอร์ในอดีตนั้นเคยกว้างขวางกว่าในปัจจุบันมาก

“ลักษณะเด่น เมื่อเทียบกับอัลลิเกเตอร์ชนิดอื่น คือ มีจะงอยปากกว้างและสั้นกว่า มีกะโหลกสูงกว่า มีตำแหน่งรูจมูกอยู่ห่างจากปลายจะงอยปาก มีการลดจำนวนเบ้าฟันลง และมีเบ้าฟันขนาดใหญ่ขึ้น บ่งบอกว่ามีฟันขนาดใหญ่ใช้สำหรับกินอาหารที่มีเปลือกแข็ง เช่น หอยน้ำจืดชนิดต่าง ๆ จากขนาดกะโหลกคาดว่า มีขนาดทั้งตัวยาวประมาณ 1-2 เมตร นอกจากนี้ ยังพบว่าลักษณะกะโหลกใกล้เคียงกับอัลลิเกเตอร์จีนในปัจจุบัน (Alligator sinensis) แสดงให้เห็นว่า อัลลิเกเตอร์ทั้งสองชนิด อาจมีบรรพบุรุษร่วมกันระหว่างลุ่มน้ำแยงซีและลุ่มน้ำแม่โขง-เจ้าพระยา แต่การเกิดธรณีแปรสัณฐานทำให้เกิดการยกตัวของที่ราบสูงธิเบต ส่งผลให้เกิดการแยกประชากรทั้งสองชนิดออกจากกัน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้อัลลิเกเตอร์แม่น้ำมูล เกิดการสูญพันธุ์ไปก่อน” นายกันตภณ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีผลงานการศึกษาวิจัยจากกรมทรัพยากรธรณีค้นพบซากดึกดำบรรพ์ชนิดใหม่ของไทยและของโลก จำนวนทั้งสิ้น 691 ชนิด (สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 407 ชนิด สัตว์มีกระดูกสันหลัง 158 ชนิด พืช 69 ชนิด ร่องรอย 1 ชนิด และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก 56 ชนิด) ยกตัวอย่าง เช่น 1.ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย 13 ชนิด เช่น ชนิดใหม่ล่าสุด มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส ค้นพบที่ภูน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ อายุ 150 ล้านปีก่อน 2.ซากดึกดำบรรพ์ปลา โคราชเอเมีย ภัทราชันไน ค้นพบที่บ้านโกรกเดือนห้า จ.นครราชสีมา อายุ 115 ล้านปีก่อน 3. ซากดึกดำบรรพ์เอปโคราชขนาดใหญ่ โคราชพิเธคัส แม็กนัส ค้นพบที่บ่อทรายโคราช จ.นครราชสีมา อายุ 9 ล้านปีก่อน 4. ซากดึกดำบรรพ์สนห้าใบ ไพนัสหนองหญ้าปล้องเอนซิส ค้นพบที่หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี อายุ 25 ล้านปีก่อน 5.ซากดึกดำบรรพ์อัลลิเกเตอร์ มูลเอนซิส ค้นพบที่โนนสูง จ.นครราชสีมา อายุ 200,000 ปีก่อน

หากผู้ใดพบสิ่งที่ควรเชื่อว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์ ขอให้แจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ภายใน 7 วัน โดยทาง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะต้องดำเนินการกันพื้นที่ที่พบซากดึกดำบรรพ์นั้น และแจ้งให้กรมทรัพยากรธรณีทราบ ภายใน 7 วัน หลังจากนั้น กรมทรัพยากรธรณีจะดำเนินการตรวจสอบภายใน 7 วัน หลังจากได้รับแจ้ง โดยขอความร่วมมือผู้ที่พบซากดึกดำบรรพ์ไม่ควรขุดค้นหรือขนย้ายสิ่งที่ควรเชื่อว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์ เพราะซากดึกดำบรรพ์นั้น อาจจะแตกหักเสียหายได้ และทางกรมทรัพยากรธรณี จะต้องตรวจสอบธรณีวิทยาในพื้นที่ด้วย.