เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ่อและแม่ได้พาลูกสาววัย 15 เข้าร้องกับ นางปวีณา หงสกุล หลังถูกเพื่อนร่วมงานพ่อเพิ่งออกจากคุกคดีข่มขืน วางแผนสร้างเรื่องร่วมกับชายสวมหมวกไอ้ไม่งอีก 1 คน ใช้ปืนจ่อหัวอ้างเป็นตำรวจ ขู่จะฆ่าให้ตาย ก่อนที่ 2 คนร้าย จะร่วมกันขยี้กาม พร้อมถ่ายคลิปขณะก่อเหตุจนสำเร็จความใคร่ ก่อนพากลับมาส่งที่บ้าน

นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่แจ้งว่า ปกติพ่อแม่จะทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โดยทิ้งให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 อยู่กับปู่และย่าที่ จ.กาญจนบุรี กระทั่งวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ย่าได้โทรฯ มาบอกว่า ลูกสาวถูก 2 คนร้าย คนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานพ่อในหมู่บ้านชื่อ นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี เพิ่งออกจากคุกในคดีข่มขืนได้ไม่นาน ส่วนอีกคนไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะสวมหมวกไอ้โม่งตลอดเวลา โดยชายสวมหมวกไอ้โม่งอ้างว่าเป็นตำรวจ ใช้ปืนจ่อหัวลูกสาวก่อนพาไปในห้างนาบริเวณทุ่งนาที่เปลี่ยวมืดและผลัดกันข่มขืน จากนั้นได้พามาส่งบ้านและขู่จะยิงทิ้งถ้าเอาเรื่องไปบอกใคร หลังทราบเรื่องจึงรีบเดินทางไป จ.กาญจนบุรี พาลูกเข้าแจ้งความในวันที่ 6 ต.ค. ทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

นางน้อย เล่าต่อว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า คืนวันเกิดเหตุ นายเอกได้พาลูกสาวขี่รถไปเที่ยวงานแข่งวัวลานใกล้บ้าน เมื่อถึงที่เปลี่ยวทางไปทุ่งนาใกล้คลองชลประทาน ได้ออกอุบายว่าเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่บนถนน ให้ลูกสาวลงจากรถไปเก็บ จังหวะนั้นจู่ๆ ก็มีชายสวมหมวกไอ้โม่งกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เอาปืนมาจี้หัวลูกสาว พร้อมข่มขู่ห้ามส่งเสียงร้องมิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ส่วนนายเอกก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังขี่รถให้ลูกนั่งตรงกลาง และให้ชายสวมไอ้โม่งก็นั่งซ้อนสามกันไป ลูกสาวกลัวมาก คิดว่าตัวเองจะไม่รอดชีวิต และไม่ได้กลับมาหาพ่อแม่แล้ว จึงได้ยกมือไหว้ชายสวมไอ้โม่งและขอร้องให้นายเอกช่วย แต่นายเอกกลับพาไปที่ห้างนา ก่อนจะร่วมกับชายสวมไอ้โม่ง สลับกันข่มขืนลูกสาวและถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไว้ด้วย

“หลังคืนเกิดเหตุ ลูกสาวกลับมาบ้านก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เครียดมากเพราะรู้สึกผิดที่หนีออกไปตอนกลางคืน จนเกิดเรื่องเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง จากนั้นก็มีอาการซึมเศร้า ไม่รู้จะทำอย่างไร ผ่านไป 5 วัน เพื่อนๆ ของลูกที่รู้เรื่องได้พากันมาบอกย่า ลูกจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ย่าฟัง ก่อนจะมาบอกแม่ให้พาเข้าแจ้งความ ตอนนี้ลูกสาวสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะกลัวว่าคลิปจะถูกเผยแพร่ แม่ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย” นางน้อย กล่าว

เบื้องต้นนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน สอบสหวิชาชีพ น.ส.เอ ในวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 2 คนร้าย ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ขณะที่แม่และเด็กหวาดผวาเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะคนร้ายมีปืนและไม่รู้ว่าไอ้โม่งเป็นใคร จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ให้ความปลอดภัยด้วย โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีกับ พ.ต.อ.อำนาจ อย่างใกล้ชิด หากจับคนร้ายได้ ตำรวจก็จะคัดค้านการประกันตัว ขณะที่แม่เด็กอยากให้ลูกย้ายโรงเรียนมาอยู่ด้วยที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงศึกษาฯ ให้ ซึ่งระหว่างนี้แม่และเด็กจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนกว่าจะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้.