สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีอียิปต์ออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ผู้นำอียิปต์ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เห็นชอบร่วมกัน ในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซา ผ่านด่านราฟาห์ ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งติดกับภาคใต้ของฉนวนกาซา “ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
???? Live: Egypt announces 'sustainable' aid corridor to Gaza via Rafah, says presidency
— FRANCE 24 English (@France24_en) October 18, 2023
➡️ https://t.co/JTxpn5XWcp pic.twitter.com/U3ZuMeouLC
ด้านรัฐบาลอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า จะไม่ปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งจะผ่านเข้าฉนวนกาซาทางจุดผ่านแดนราฟาห์ แต่มีเงื่อนไขว่า อิสราเอลจะไม่ขัดขวาง “ตราบใดที่ความช่วยเหลือทั้งหมดถึงมือเฉพาะชาวฉนวนกาซา ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มฮามาส”
Video shows Israel bombing the Rafah crossing for the fourth time since the start of the war, which is located in the southern part of Gaza bordering Egypt’s Sinai peninsula, and is the only way to cross into Egypt, serving as a vital link between Gaza and the rest of the world pic.twitter.com/C2JH1nnBjC
— Middle East Eye (@MiddleEastEye) October 17, 2023
อนึ่ง เบื้องต้นมีรายงานว่า อียิปต์จะอนุญาตให้รถบรรทุกเพื่อมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางผ่านด่านราฟาห์ วันละประมาณ 20 คัน แต่ยูเอ็นพยายามเจรจาขอเพิ่มโควตาเป็นวันละ 100 คัน

อย่างไรก็ตาม ผู้นำอียิปต์ยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดพรมแดนสำหรับผู้ลี้ภัยจากฉนวนกาซา เนื่องจากจะเป็นการสร้างแรงกระเพื่อม ให้มีผู้ลี้ภัยเดินทางออกจากเขตเวสต์แบงก์ไปยังจอร์แดน พร้อมทั้งยืนกรานว่า อียิปต์ “ไม่เคยปิด” จุดผ่านแดนราฟาห์ แต่การโจมตีของอิสราเอลขัดขวางกระบวนการที่จำเป็น
คำกล่าวของผู้นำอียิปต์สอดคล้องกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ซึ่งตรัสว่า สถานการณ์ของชาวปาเลสไตน์ต้องได้รับการแก้ไข “ภายในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์” และจอร์แดนไม่รับผู้ลี้ภัยจากเขตเวสต์แบงก์ เพราะจะส่งผลกระทบต่ออียิปต์ด้วย.
เครดิตภาพ : AFP