เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ สำนักงาน ปปง. นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่ามีบัญชีม้าในระบบธนาคารจำนวนมากถึง 200,000-500,000 บัญชี จากบัญชีธนาคารในประเทศทั้งหมดกว่า 121,000,000 บัญชี ปปง. จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหามาตรการควบคุมการเปิดบัญชีม้า โดยเบื้องต้น ปปง. ได้ร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ คัดกรองรายชื่อที่คาดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า โดยรวบรวมจากผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกง หรือถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมออนไลน์และเข้าไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ โดยขณะนี้รวบรวมได้แล้วกว่า 10,000 รายชื่อ รวมกว่า 70,000 บัญชี หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1:7 และได้แจ้งรายชื่อทั้งหมดไปยังสถาบันการเงิน เพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมของบุคคลที่มีรายชื่อดังกล่าว ซึ่งจะไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ได้ นอกจากแสดงตัวตนผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น และขณะนี้ทาง ปปง. ยังคงดำเนินการรวบรวมรายชื่อกลุ่มผู้ที่เข้าข่ายบัญชีม้าอยู่ โดยพบรายชื่อผู้เข้าข่ายเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละกว่า 1,000 รายชื่อ

โฆษก ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรม รวมถึงเป็นมาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการฝากเงินสดผ่านตู้อัตโนมัติ จะต้องแสดงตัวตนร่วมด้วย โดยการฝากเงินไม่เกินครั้งละ 30,000 บาท ต้องแสดงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับรหัส OTP จากธนาคารก่อนทำธุรกรรมต่อไป ส่วนการฝากเงินมากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ผู้ฝากต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ร่วมกับรหัสส่วนตัว หรือรหัสพิน (PIN) โดยทั้งสองรายการไม่เสียค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมแต่อย่างใด หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์ของธนาคาร หรือสอบถาม ปปง. ได้ทุกช่องทาง.