เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ รพ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ขอนแก่น เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งย่าแจ้งว่าถูกคนขับรถตู้ข่มขืนกระทำชำเราบนรถ ขณะนั่งรถตู้จากบ้านที่ อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เพื่อไปพบกับพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ในช่วงปิดภาคเรียน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ความคืบหน้าทางคดีได้ดำเนินการส่งตัวเด็กไปตรวจพิสูจน์ และเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่น โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ปกครองของน้องเอเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่าในเดือน ต.ค. น้องเอ ได้เดินทางไปอยู่กับพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ โดยที่พ่อแม่ได้ประสานรถตู้ให้รับตัวที่ อ.แวงน้อย ไปส่งที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกกับพ่อแม่ว่า คนขับรถตู้ได้ล่วงละเมิดทางเพศ

ปัจจุบันหลังจากที่แจ้งความ ได้ส่งตัวเด็กไปพบแพทย์และเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่น เบื้องต้นแพทย์บอกว่าสภาพจิตใจของเด็กยังไม่ดีและยังให้การอะไรไม่ได้ ภ.จว.ขอนแก่น จึงได้ประสานงานไปยัง สน.บางกอกใหญ่ ได้รับทราบ และขอให้เชื่อมั่นว่าทางตำรวจจะดำเนินการเต็มที่ ตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง

หัวอกพ่อ! วอนจับคนขับรถตู้โดยสาร วางยาข่มขืน ‘ลูกสาววัย13’ ขณะนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ

ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้คนขับรถตู้ก็พยายามที่จะติดต่อเข้ามาพบกับตำรวจ และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนในอำนาจการสอบสวน ต้องให้ สน.บางกอกใหญ่ เป็นคนดำเนินการ โดยจากการประสานงานเบื้องต้น คนขับรถตู้ได้ให้การปฏิเสธ แต่ยังไม่มีการเข้ามารายงานตัวกับตำรวจแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นว่าตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ตามพยานหลักฐาน และรอให้น้องเอให้การได้จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนได้

ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า เท่าที่สังเกตพบว่าเด็กยังมีความผิดปกติอยู่ ไม่ดีขึ้น และไม่พร้อมที่ให้ข้อมูล โดยหลังจากเกิดเหตุ น้องเอได้มาเล่าเหตุการณ์ให้ย่าฟัง มีอาการไม่ดี ซึมเศร้า ย่าจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน แพทย์ชุมชนเห็นความผิดปกติทางด้านจิตใจ จึงส่งต่อไปที่สถาบันเด็กราชนครินทร์ จิตเวชเด็กและวัยรุ่น จ.ขอนแก่น ก่อนจะส่งมาตรวจร่างกายที่ รพ.ขอนแก่น

“วันนี้ได้ทำการตรวจคลื่นสมองและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เท่าที่ตรวจดูยังไม่พบปัญหาทางกาย ไข้สมองอักเสบก็ไม่พบ เหลือเพียง 1-2 รายการ ที่ยังไม่ได้ตรวจ ขณะเดียวกันได้มีศูนย์พึ่งได้ (OSCC) ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ความรุนแรง เข้ามาดูแลด้วย ปัญหาตอนนี้คือเด็กยังไม่พร้อมให้ข้อมูลใดๆ อย่างไรก็ตาม รพ.ขอนแก่น ไม่ใช่โรงพยาบาลที่รับการรักษาโดยตรง เพราะคนไข้ถูกส่งต่อมาเนื่องจากจิตเวชไม่มีความพร้อมด้านเครื่องมือ หากตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็จะส่งกลับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาตรวจอีก 1-2 วัน น่าจะเสร็จ เรื่องนี้ละเอียดอ่อน จึงต้องดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ให้กระทบจิตใจเด็กมากไปกว่านี้ ส่วนข้อมูลต่างๆ ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้มากกว่านี้” ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าว