ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงความชัดเจนนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท หมายถึง ถ้ารายได้เกิน 70,000 บาท แต่มีเงินฝากน้อยกว่า 5 แสนบาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิ หรือรายได้น้อยกว่า 70,000 บาท แต่เงินฝากมากกว่า ก็จะไม่ได้รับสิทธิ โดยให้สิทธิครั้งแรก 6 เดือน หลังจากโครงการเริ่ม ขยายพื้นที่ครอบคลุมระดับอำเภอ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดกระแสในโลกออนไลน์ เป็นจำนวนมาก ในส่วนของผู้ที่มีเงินฝาก 5 แสนบาท โดยได้มีการรุมถล่มรัฐบาล และเกิดคำถามมากมาย อาทิ

– คนที่มีเงินเก็บห้าแสนบาทขึ้นไปผิดอะไรหรือ ภาษีก็ต้องจ่าย เมื่อประเทศเป็นหนี้ต้องมารับผิดชอบอีก เราไม่ใช่คนไทยหรือ ถึงทำแบบนี้ จริงๆ แล้วถ้ารัฐบาลไปกู้เงินมาแจกประชาชนจนทำให้หนี้สินของประเทศล้นพ้น เราในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งไม่อยากได้ คนในประเทศไทยน่าสงสาร ที่เจอผู้บริหารประเทศเห็นแก่ตัว

– ตลกดี ช่วงก่อนนี้เขาจะแจกทุกคน พวกก็ออกมาว่า แจกให้คนรวยทำไม พอตอนนี้เขามีเงื่อนไข กรองคนมีฐานะออกไป ให้คนมีเงินเกิน 5 แสน บวกเงินเดือน 7 หมื่น ออกไป ก็มาโวยว่าทำไมไม่แจกทุกคน ตลกมาก พวกที่ด่านี่เปลี่ยนกลับไปกลับมาเร็วมาก ตลกเว่อร์ คนอยากได้เขาไม่ด่า แต่อีพวกไม่อยากได้นี่ด่าจัง ขำ

– คนมีเงินห้าแสนมันผิดตรงไหนนายกฯ นิด เขาเก็บเงินไว้ใช้ในยามแก่เฒ่า

– ยินดีกับคนที่ไม่ได้ เพราะสุดท้ายก็ได้มาใช้หนี้ร่วมกันถ้วนหน้า

– เก็บเงินไว้ กูผิดอะไร ถึงไม่ได้

นอกจากนี้ยังมีคนดัง เช่น

นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายชื่อดัง ได้โพสต์เช่นกันว่า เมื่อก่อน รู้ตัวว่าจนมาตลอด เพิ่งรู้ว่าตัวเองรวย ก็ตอนรัฐบาลใช้เกณฑ์คนจน แจกเงินดิจิทัล นี่แหละ 555

อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ ระบุว่า กู้มาแจก แต่คนที่ไม่ได้รับแจก ต้องช่วยจ่ายหนี้นะคะ 555

มีแต่ประเทศด้อยพัฒนาเท่านั้น ที่รัฐบาลยังใช้นโยบายประชานิยมแจกเงินเพื่อสร้างความชอบธรรม แต่นี่พอจะแจกหมื่นหนึ่งจริงๆ กลับสร้างเงื่อนไขร้อยแปด ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ และการเอาไปใช้ก็มีข้อจำกัดมาก แถมการเอาไปใช้กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนบรรษัทใหญ่ให้รวยขึ้นไปเอง ประเทศที่พัฒนาแล้วและมีรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ เขาย่อมเอาเงินส่วนนี้ไปทำเมกะโปรเจกต์ที่ส่งผลต่อสวัสดิการประชาชนในระยะยาว อาทิ ไปพัฒนาการคมนาคม-สาธารณูปโภค แทนที่จะเอามาแจกแบบงี่เง่าแบบนี้