เมื่อวันที่ 3-4 พ.ย. 2566 ดร. โรเบิร์ต บัลลาร์ดแห่ง นอติลุส ไลฟ์ ทีมสำรวจมหาสมุทรในรูปขององค์กรไม่แสวงผลกำไรในเครือกองทุนทรัสต์โอเชียน เอ็กซ์พลอเรชัน นำทีมลงสำรวจใต้มหาสมุทรที่บริเวณนอกชายฝั่งเกาะโออาฮู รัฐฮาวาย โดยมีกองทัพเรือสหรัฐให้การสนับสนุน

ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอจากการสำรวจครั้งนี้ได้ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพที่รายละเอียดสูงของซากเรือดำน้ำสัญชาติญี่ปุ่น 2 ลำ หมายเลขประจำลำเรือ I-201 และ I-401 ซึ่งจมอยู่ที่ก้นมหาสมุทรตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 

ในช่วงใกล้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำทั้งสองลำนี้ โดนกองทัพเรือสหรัฐล้อมไว้ในปี 2489 โดยฝ่ายญี่ปุ่นตั้งใจจะหลบหนีฝ่ายอเมริกัน ออกไปนอกชายฝั่งเกาะโออาฮู

ทีมห้องแล็บและวิจัยใต้ทะเลของมหาวิทยาลัยฮาวายเป็นผู้ค้นพบซากเรือทั้งสองในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 และจากนั้นพวกมันก็ได้กลายเป็นจุดทดสอบเทคโนโลยีการสำรวจ เพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโดยรอบ หลังจากที่เคยมีการสำรวจพื้นที่ครั้งล่าสุดเมื่อสิบกว่าปีก่อน

คลิปวิดีโอนี้เป็นภาพเคลื่อนไหวชุดแรกของซากเรือดำน้ำในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่คมชัดทำให้เห็นซากเรือ I-201 ความยาว 19 ฟุต ที่แทบจะสมบูรณ์ มองเห็นองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงตอร์ปิโด และธงชาติญี่ปุ่นที่ประดับเรือ ทั้งที่อยู่ในภาวะที่โดนกัดกร่อนจากน้ำทะเล 

สำหรับเรือดำน้ำ I-401 ซึ่งถือว่าเป็นเรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุคก่อนปีค.ศ. 1965 พบว่ามีร่องรอยของความเสียหายในบางส่วน  แต่ยังคงมองเห็นส่วนที่เป็นกระบอกปืนเรียงแถวกันอย่างชัดเจน

เรือดำน้ำของกองทัพญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นับว่าเป็นความล้ำหน้ายิ่งกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุคนั้น แต่กลับไม่ได้มีการพัฒนาศักยภาพเท่าที่ควรเนื่องจากความขัดแย้งภายในกองทัพ 

แม้ว่าในท้ายที่สุด กองทัพเรือดำน้ำของสหรัฐจะสามารถคว้าชัยชนะเหนือฝ่ายอักษะได้ โดนทำลายเรือรบของฝ่ายตรงข้ามไปได้มากกว่า 55% และสหรัฐเองก็ต้องประสบภาวะสูญเสียอย่างหนัก โดยสูญเสียเรือดำน้ำไปถึง 52 ลำและมีนายทหารเรือที่เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

ที่มา : nextshark.com

เครดิตภาพ : YouTube / EVNautilus