จากกรณี กล้องวงจนรปิดบริเวณปากซอยหน้าตลาดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จับภาพกลุ่มเด็กวัยรุ่นเข้าไปกระชากคอเสื้อ นักเรียนมัถยมต้นรายหนึ่งที่นั่งซ้อนจยย.เพื่อนเพื่อลงมือรุมทำร้ายร่างกาย แต่ระหว่างนั้นนักเรียนที่โดนกระทำได้ควักระเบิดปิงปองออกมาปาใส่ ก่อนจะวิ่งหลบหนี ขณะที่เพื่อนนักเรียนซึ่งขี่จยย.ออกจากซอยแต่ก็พลาดเข้าไปในเลนรถทางตรง ทำให้โดนรถยนต์สีขาวชนล้มคว่ำกลางถนน หลังเกิดเหตุตำรวจสภ.บางปู ติดตามจับกุมวัยรุ่นและนักเรียนทั้งหมดไปให้การที่โรงพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16.00 น. วันที่ 30 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุช่วงค่ำวานนี้ (30 พ.ย.66) พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู เข้าพูดคุยและสอบปากคำเบื้องต้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทั้งหมดอายุไม่ถึง 15 ปี ต่ำสุดคือ 13 ปี โดยก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกันมาก่อน สำหรับระเบิดปิงปองฝ่ายกลุ่มเด็กนักเรียนอ้างว่าเพิ่งพกไปเรียนวันแรกและมีไว้ป้องกันตัวเนื่องจากอีกฝ่ายมักยกพวกมารุมทำร้าย ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนทำร้ายมาแล้ว ทั้งไล่ยิงไล่ฟัน แต่พอไปบอกใครก็ไม่มีใครช่วยเหลือ ไม่มีใครเข้าข้าง สุดท้ายก็ต้องช่วยชีวิตตัวเอง เพราะไม่อยากโดนอีกฝ่ายข่มเหง

ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยหลังจากที่พูดคุยกับทั้งสองฝ่ายบอกว่า ถึงเป็นเรื่องใหญ่ของจังหวัด ที่พยายามหาทางไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ ที่ผ่านมาอาจมุ่งเน้นไปยังสถานศึกษาในระดับอาชีวะ ในเรื่องแผนป้องกันเหตุ แต่ล่าสุดกลับมาพบว่ามีการขยายแนวคิดและอุดมการณ์ที่ผิดลงมายังนักเรียนมัถยมต้น โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเพิ่มมาตรการรวมถึงประสานสถานศึกษาระดับมัธยมทุกแห่ง ให้วางมาตรการและหาแนวทางการระงับเหตุป้องกันเหตุ มุ่งเน้นดูแลให้อบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเยาวชนเปาะปรางที่มีปัญหาทางครอบครัว เนื่องจากสถิติที่ผ่านมา นั้นพบว่ากว่าร้อยละ 80 นั้นเกิดจากปัญหาทางครอบครัว ที่เด็กและเยาวชนขาดการอบรมสั่งสอนและขาดความอบอุ่นทางครอบครัว ทำให้ติดเพื่อนและถูกรุ่นพี่ปลูกฝังแนวคิดและอุดมการณ์ในทางที่ผิด

หลังจากนี้จะต้องเพิ่มความเข็ม ไม่ว่าจะยกระดับชุดเคลื่อนที่เร็ว ปะฉะดะ รวมถึง การแฝงตัวของฝ่ายสืบสวนเข้าไปยังสถานศึกษาเพื่อหาการข่าวและดูแลเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมาย ส่วนชนวนเหตุครั้งนี้จากการพูดคุยสอบถามทั้งสองฝ่ายก็มาจากเคยมีปัญหาทะเบาะวิวาทกันมาก่อน แล้วตามเอาคืนให้เพื่อนร่วมสถาบันกัน ส่วนระเบิดที่นำมาใช้ก่อเหตุ พบว่าเยาวชนอายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ยอมรับว่าเป็นคนที่ดัดแปลงทำขึ้นมาเอง ซึ่งอ้างว่าไว้ใช้เพื่อป้องกันตัว ส่วนการดำเนินคดีกับทั้งสองฝ่ายนั้น สั่งการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จะต้องถูกแจ้งข้อหาพกพาวัตถุระเบิด พกพานำพาอาวุธมีด รวมถึงข้อหาร่วมกันสมัครใจทะเลาะวิวาท จากนั้นให้จัดทำประวัติและส่งตัวให้ผู้ปกครองรับไปดูแล ก่อนจะนัดมาดำเนินการตามขวบการของกฎหมายต่อไป.