จากกรณีนายปวริส กลับวิหค หรือผู้ใหญ่แกน อายุ 35 ปี ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว ขณะนั่งพูดคุยกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และลูกบ้านรวม 7 คน ที่ศาลาหลังบ้านของตนเอง เลขที่ 30 หมู่ 7 บ้านแม่โมกข์ ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ร่วมกับชุดสืบสวน สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.กาญจนดิษฐ์ สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มี.ค. พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ ผกก.สส.ภ.จว. พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน และชุดปฏิบัติการพิเศษ (SWAT) กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.181/2567 ลงวันที่ 27 มี.ค.67 จับกุมนายอุบล หรือเชาว์ ส้มแก้ว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู๋ที่ 9 ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และหมายจับที่ จ.182/2567 ลงวันที่ 27 มี.ค. 67 จับกุมนายชัยวัฒน์ หรือบังตู่ จำปาดะ อายุ 51 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 1 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านพักของนายชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีกำแพงล้อมรอบและมีแคมป์คนงานอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและเรียกตัวนายชัยวัฒน์ ออกมาเปิดประตู ก่อนแสดงหมายค้นและหมายจับ ภรรยาของนายชัยวัฒน์ได้แสดงทีท่าไม่พอใจและต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังแสดงหมายจับ นายชัยวัฒน์ได้มีอาการหน้ามืดเป็นลม จนเจ้าหน้าที่ต้องเอายาดมให้ดม และนั่งพักเพื่อให้อาการดีขึ้น

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจค้นเป้าหมาย ที่บ้านพักของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ และตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก ปืนพกสั้น 2 กระบอก และปืนยาวขนาด .22 อีก 1 กระบอก เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผบก.สส.ภ.8 กล่าวว่า ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนและขออนุมัติหมายจับ มีหลักฐานพบว่าสาเหตุความขัดแย้งมาจากที่ นายอุบล ไปติดพันผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติของผู้ใหญ่แกน แต่ถูกผู้ใหญ่แกนกีดกัน เนื่องจากเห็นว่านายอุบลมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุ จึงทำหน้าที่เป็นคนขับรถ เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในการสอบสวนเบื้องต้นให้การว่า เป็นเพื่อนกับผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธปืนยิง จึงอาสามาเป็นคนขับรถ ส่วนสาเหตุความขัดแย้งที่แน่ชัดจะมาจากเรื่องใดนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่าสาเหตุความขัดแย้งไม่ได้มาจากเรื่องถูกกีดกันด้านความรักอย่างเดียว แต่มาจากการทำงานของผู้ใหญ่แกน ซึ่งรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเจ้าของโรงโม่หินแห่งหนึ่งในพื้นที่ และเคยแจ้งเบาะแสการทุจริตในโรงโม่ให้กับเจ้าของโรงโม่ทราบ ซึ่งประเด็นนี้ ชุดสืบสวนกำลังขยายผลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป.