เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.อ.พิเชฐ เทพสุวรรษ์ พนักงานสอบสวน กก.3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นำตัวนายสมภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ข้าราชการเกษตรอำเภอใน จ.อุดรธานี ซี 7 และเป็นโค้ชทีมฟุตบอลเด็ก และอดีตนายทหารเกษียณราชการ ยศ พ.ต. อายุ 64 ปี เป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันกระทำชำเราเด็ก อายุไม่เกินสิบสามปีเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำ กระทำกับอวัยวะเพศทางทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครรลองคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งใด, ร่วมกันพรากผู้ใด โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก บังคับขู่เข็ญ ใช้กำลัง ยุยงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอนแทนหรือเพื่อการใด

กรณีปรากฏเป็นข่าวว่าผู้ต้องหาร่วมกันกระทำชำเราเด็กชายอายุ 10 ขวบ 4 ราย ในทีมฟุตบอล มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน โดยพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนพยานอีก 8 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลางและรอผลตรวจพิสูจน์พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา จึงขออนุญาตศาลฝากขังต่อศาล

ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตไม่ให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับ จึงไม่อาจให้ประกันในชั้นสอบสวนได้ อีกทั้งเชื่อว่าหากให้ประกันตัว ผู้ต้องหาจะหลบหนีและคดีมีอัตราโทษสูง ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวจากศาล เมื่อครบกำหนดเวลาทำการ ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างฝากขัง