ออกมาสอนมวยรัฐบาลผ่าน 5 กรอบคิด คือ 1.คิดดีทำได้ เช่น เรื่องการช่วยเหลือตัวประกันในอิสราเอล วัคซีน HPV หนี้ในระบบ-นอกระบบ (พักหนี้) 2.คิดไปทำไป เช่น เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งหากทำไม่ได้ต้องมีแผน 2 รองรับ เงินเดือนข้าราชการและแลนด์บริดจ์ 3.คิดสั้น (ยัง) ไม่คิดยาว เช่น เรื่องค่าไฟ ค่ารถไฟฟ้า 20 บาท 4.คำใหญ่ ทำเล็ก เช่น เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ส.ป.ก. และ 5.คิดอย่าง ทำอย่าง เช่น เรื่องร่างรัฐธรรมนูญและปฏิรูปกองทัพ  

พร้อมฝากถึงนายกฯ ในทำนองว่าตอนนี้ยังตัดเกรดให้รัฐบาลไม่ได้ การบริหารราชการแผ่นดินกับเอกชนแตกต่างกัน นอกจากสั่งอย่างเดียวแล้ว ต้องติดตามผลด้วย ฟาก “เสี่ยนิด” สวนกลับข้ามประเทศ บอกทุกนโยบายมีโรดแม็พชัดเจน ทั้งลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟ ค่าน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร การท่องเที่ยว ทำทันที ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไปมาหมดแล้ว อะไรที่ค้างคาใจได้คุยกัน ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ส่งเรื่องไปยังสำนักงานกฤษฎีกาแล้ว มั่นใจว่าชัดเจนทุกเรื่อง รวมทั้งการขับเคลื่อนกฎหมายต่างๆ แต่ก็พร้อมรับฟังฝ่ายค้าน เพราะเป็นตัวแทนของประชาชน  

นอกจากนั้น บรรดาลูกหาบพรรคเพื่อไทยต่างออกมาขย่ม “พิธา” และพรรคก้าวไกลซ้ำ โดยเฉพาะ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาเหน็บว่า ช่วงจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลบอกว่า 10 เดือนรอได้ เพื่อให้ สว. หมดอายุ แต่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน 3 เดือนเท่านั้น “พิธา” กลับรีบร้อน รอไม่ได้ ทำตัวย้อนแย้งวิจารณ์รัฐบาลตั้งแต่หัววัน  

พร้อมยกเหตุ “พิธา” เพิ่งกลับจากทัวร์เกาหลี บุกค่ายวายจีโชว์ตารางงาน รายชื่อเพลง ข้อมูลสำคัญของบริษัท จนถูกสังคมถล่ม เตือนต้องไม่ลนลานหิวแสงรีบร้อนค้านไปหมดทุกเรื่อง ไปศึกษาผลงานรัฐบาลให้ครบถ้วนแล้วค่อยวิจารณ์ก็ไม่สาย งบยังไม่ผ่าน ยังทำได้มากขนาดนี้ ควรให้กำลังใจรัฐบาล

ในขณะที่การประชุมสภาก็ล่มตั้งแต่นัดแรก หลังเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต่างซัดกันนัวว่าเป็นการเล่นเกมการเมือง ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน เรียกว่าเป็นศึกยกแรกของฝ่ายค้านกับรัฐบาล หลังเปิดเทอมสองการทำงานในสภา   

หลังช่วงปีใหม่ 2567 ยิ่งต้องต้องจับตามสมรภูมิการเมืองที่น่าจะเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ทั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ที่รอถกในช่วงต้นเดือน ม.ค. และศึกซักฟอกรัฐบาลต่อจากนั้น อย่างไรก็ตาม วันนี้อย่าลืมว่าพรรคก้าวไกลมีหัวหน้าพรรคชื่อ“ชัยธวัช ตุลาธน” ที่ต้องทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาต่อไป จึงต้องรอดูว่า บทบาทของผู้นำฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ได้สมความคาดหวังหรือไม่ เพราะหากพรรคก้าวไกล ยังต้องอาศัยแสงจาก “พิธา” ในการต่อกรกับพรรคเพื่อไทย อนาคตทางการเมืองในอีก 4 ปีข้างหน้า ก็คงยากลำบากไม่ใช่น้อย.