จากกรณีพบร่าง ด.ช.เอ (นามสมมุติ) วัย 2 ขวบ เสียชีวิตเป็นศพอยู่ในตู้เย็นภายในห้องนอนของ นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย พ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้รับการยืนยันผลการชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ออกมาว่า เด็กกินข้าวเหนียวแล้วติดคอเสียชีวิต ประกอบกับจากการสอบปากคำปู่ของเด็ก บอกว่าเด็กเดินมาขอข้าวเหนียวไปกิน จากนั้นเด็กก็เดินเข้าห้องนอนแล้วก็หายไป ซึ่งสอดคล้องกับผลการตรวจที่เกิดเหตุว่าพบข้าวเหนียวในปากเด็กและเศษข้าวเหนียวบนที่นอน จึงถือว่าคดีนี้เป็นอุบัติเหตุเด็กสำลักข้าวเหนียวจนติดคอเสียชีวิตเอง

ส่วนคดีซ่อนเร้นอำพรางศพเนื่องจากพ่อและแม่เลี้ยงกลัวความผิดจากร่องรอยเขียวช้ำตามตัว จึงได้นำศพเด็กไปซ่อนในตู้เย็น ซึ่งพ่อเลี้ยงโดนแจ้งข้อหา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ไม่แจ้งสาเหตุการตาย และเสพยาเสพติด ส่วนแม่เลี้ยงถูกแจ้งข้อกล่าวหา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ไม่มีการแจ้งข้อหาปู่ เพราะถือว่าเป็นอุบัติเหตุ

จากการสอบปากคำปู่อู๊ด อายุ 70 ปี ซึ่งพิการทางสายตา และอยู่อาศัยในบ้านหลังเกิดเหตุเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังถูกนายแบงค์ และน.ส.ก้อย หลานชายกับหลานสะใภ้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและซัดทอดว่า ปู่อู๊ดเป็นคนป้อนข้าวเหนียวให้กับน้องเอ ก่อนที่น้องเอจะเสียชีวิตจากสาเหตุข้าวเหนียวติดคอ

ไม่มีสวดศพ! พ่อเด็ก 2 ขวบยัดตู้เย็น ประสานวัดขอทำพิธีฌาปนกิจวันนี้ทันที

ปู่อู๊ด ให้ปากคำว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ม.ค. ขณะตนกำลังนั่งฟังวิทยุและกินข้าวเหนียวกับลาบหมูอยู่ในบ้านชั้นล่างนั้น น้องเอได้เดินเข้ามากอดตน ตนจึงได้ลูบหัวแล้วถามว่าเอาข้าวเหนียวไหม น้องเอก็ยกกระติบข้าวเหนียวมาใส่ที่มือของตน ตนจึงได้หยิบเอาข้าวเหนียวป้อนให้น้องเอไปหนึ่งคำ โดยยังได้บอกกับน้องเอด้วยว่า เคี้ยวให้ดีๆ ระวังติดคอ เสร็จแล้วให้กินน้ำตาม ต่อมาเด็กชายได้จับมือของตนไปที่กล้วยน้ำว้าที่วางอยู่ ตนจึงหยิบกล้วยน้ำว้าขึ้นมาแกะแล้วแบ่งให้น้องเอกินครึ่งลูกและตนก็กินอีกครึ่งลูกที่เหลือ

จนกระทั่งตนกินอาหารเสร็จก็กินยาตาม ส่วนน้องเอ ตนได้ยินเสียงวิ่งกลับไปที่ห้องแล้ว ตนจึงเดินออกไปคัดแยกขวดกับของเก่าเพื่อเตรียมไว้ขาย และหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เจอน้องเออีกเลย โดยเข้าใจว่านายแบงค์ หลานชายและน.ส.ก้อย หลานสะใภ้ได้พาน้องเอไปส่งคืนให้กับพ่อเด็กตัวจริงแล้ว เพราะไม่ได้ยินเสียงของน้องเอมาตั้งแต่วันที่ 3-5 ม.ค. ได้ยินแต่เสียงเข้าออกบ้านของนายแบงค์กับ น.ส.ก้อยเพียงเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประชุมสรุปสำนวนคดีในบ่ายวันนี้ จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรีในวันจันทร์ ต่อไป.