เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 ม.ค. ร.ต.อ.อมร วัดโคก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆ่าตายบนภูเขาบ้านหินงอม พื้นที่หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง ตำรวจกองปราบปราม กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

ที่เกิดเหตุต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาสูงชัน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทางเดินและทางสำหรับขี่รถ จยย. โดยพบศพนายนิติกร ดำรอด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพทำสวน สภาพศพนอนหงายหน้าถูกเผาไหม้เกรียมอยู่ในกองเพลิง โดยมีรถ จยย.สภาพถูกเผาไหม้ทั้งคัน ฝาถังน้ำมันเปิดทิ้งอยู่ และกระสอบยางก้อนทับบนร่างอยู่ พลิกศพยังพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าที่บริเวณไหล่ขวา 1 แผล ถัดออกไปประมาณ 5 เมตรยังพบศพของภรรยา ทราบชื่อคือ น.ส.ชนัญธิตา รอดดำ อายุ 40 ปี ที่อยู่ 290/5 ถนนเวฬุวัน ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา อาชีพค้าขายและทำสวน สภาพนอนตะแคงซ้าย สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณลำคอ 1 แผล โดยในที่เกิดเหตุยังพบหมอนรองกระสุนปืนตกอยู่ 1 ชิ้น และเศษหัวกระสุนลูกปรายตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และห่างจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางลงจากภูเขายังพบเหล็กคันเบรกเท้ารถ จยย. หักตกอยู่ในพงหญ้า ซึ่งคาดว่าเป็นของรถผู้ก่อเหตุ 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน

ต่อมาประมาณ 3 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ทราบชื่อคือนายการิน บุญแก้วสุทธิ์ หรือเดี่ยว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/3 หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง และนายสิทธิกร จันมัด หรือพวย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง โดยทั้งคู่รับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง ก่อนจะนำไปชี้จุดและตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนลูกซองยาว บรรจุยิงได้ครั้งละ 1 นัด ซึ่งผู้ก่อเหตุได้นำมาซ่อนไว้ในพงหญ้าบนภูเขา ถัดจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 300-400 เมตร ก่อนจะควบคุมตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติผู้เสียชีวิตยืนคอยดู พร้อมกับส่งเสียงด่าประณาม

โดยนายสิทธิกร ให้การว่า รู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากมีสวนอยู่ใกล้กัน สาเหตุที่ได้ลงมือฆ่า เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ไปฟันทางต้นปาล์มน้ำมันในสวนของนายนิติกร จนทำให้นายนิติกร ไม่พอใจมาด่าและต่อว่า จนทะเลาะวิวาทกัน ประกอบกับมีปัญหาจุกจิกระหองระแหงกันมาตลอด เมื่อผู้ตายขึ้นมากรีดยางพาราก็เจอกันจนทะเลาะกันบ่อย ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นมาไม่ถึงปี ซึ่งมูลเหตุอื่นๆ ก็ไม่มีอะไร ก่อนที่จะชวนเพื่อนคือนายการิน หรือเดี่ยว มาลงมือก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้าจะลงมือนั้นตนก็กรีดยางพาราอยู่ และเห็นว่าผู้ตายก็กรีดยางพาราอยู่ ส่วนตนกรีดไม่ทันเสร็จ จึงซ้อนท้ายรถ จยย. โดยเพื่อนเป็นคนขี่และจอดทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุ โดยเพื่อนยืนอยู่ที่รถ ส่วนตนได้ขึ้นไปนั่งซุ่มต้นไม้ใหญ่ อยู่บนเนินซึ่งอยู่สูงติดกับถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยรู้ว่าคนตายกรีดยางเสร็จแล้วจะขี่รถกลับทางนี้ เมื่อคนตายมาถึง โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้าย จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงเข้าไปที่นายนิติกรก่อน 1 นัด จนรถล้มลง และภรรยาก็ล้มลง ส่วนเพื่อนก็เดินตามมาหาตน

ต่อมาตนก็ได้สั่งให้ภรรยาผู้ตายนอนลงกับพื้น ส่วนตนก็ยิงซ้ำเข้าที่นายนิติกรอีก 1 นัด และหยิบอาวุธปืนลูกซองพกสั้นของนายนิติกรที่พกติดตัวอยู่ยื่นให้เพื่อนถือ ก่อนจะเปิดฝาถังน้ำมันรถ จยย.ของผู้ตายและใช้ไฟแช็กจุดไฟจนไฟลุกไหม้รถจยย.และไหม้ร่างของนายนิติกร ต่อมาจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงภรรยา 1 นัด โดยตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยิงภรรยาผู้ตาย แต่ต้องฆ่าเพราะเห็นเหตุการณ์แล้ว ต่อมาเพื่อนได้เดินไปเอารถ จยย. แต่ในระหว่างที่เดินผ่านภรรยาผู้ตายเห็นว่ายังไม่เสียชีวิต โดยกำลังคลานและกำขวานอยู่ในมือ เพื่อนคือนายการิน หรือเดี่ยว จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้น ที่เป็นของผู้ตายยิงใส่ภรรยาอีก 1 นัดจนเสียชีวิต และขับรถไปซ่อนปืนก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไปอยู่ที่บ้าน และบอกกับพ่อแม่ว่าได้ลงมือยิงคนแล้ว

ขณะที่นางกณิการ์ ดำรอด อายุ 46 ปี พี่สาวนายนิติกร บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าน้องชายเคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ ส่วนปัญหาอื่นๆ น้องชายไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนน้องชายก็ไม่เคยบอกเล่าอะไรให้ฟัง เป็นคนชอบทำงาน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร โดยปกติน้องชายก็มากรีดยางพาราทุกวันในช่วงค่ำ และกรีดเสร็จช่วงเช้าก็กลับบ้าน ส่วนภรรยาของเขาจะไม่ค่อยมาด้วย ส่วนใหญ่น้องชายจะมาเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้ได้นำภรรยามาด้วย โดยไม่น่าจะทำกันได้ถึงขนาดนี้ ต่างคนก็ต่างมีพ่อแม่มีลูกมีเมีย น่าจะมีความรู้สึกสูญเสียบ้างว่าเป็นยังไง ก็อยากขอคัดค้านไม่ให้ประกันตัว ให้ไปรับโทษตามกฎหมายทั้งคู่

เบื้องต้นสำหรับร่างผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันแบกหามลงมายังพื้นล่าง พร้อมกับรถ จยย.คันที่ถูกเผา ก่อนจะนำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนผู้ต้องหาได้นำไปสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน และเตรียมนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนประวัติของนายสิทธิกร ผู้ต้องหาทราบว่าเคยต้องคดีอาญามาแล้วเช่นเดียวกัน.