วันที่ 18 ม.ค. ที่มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา ทางเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ  กล่าวภายหลัง ร่วมกับมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา จัดพิธีไถ่ชีวิตโคกระบือ รวมถึงทำบุญอุทิศให้กับบรรพบุรุษของกองทัพไทย เนื่องในวันกองทัพไทย ถึงดวงเมืองหลังจากปีใหม่ว่า หลังปีใหม่จะมีผู้ที่มาทำหน้าที่ให้กับชาติบ้านเมือง รัฐบาลท่านก็ทำหน้าที่ของท่านดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่อย่างแท้จริง อีกสักระยะหนึ่งก็จะมีผู้ที่ทำหน้าที่เข้ามาในการดำเนินงานของรัฐบาลต่อ

“จากนี้ทุกอย่างจะเข้าสู่ยุคศิวาลัยอย่างแท้จริง แต่สถานการณ์ที่น่าห่วงในเรื่องของสงครามและภัยธรรมชาติ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นไป ภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ได้เริ่มต้นแล้ว แต่โชคดีที่ประเทศไทยเราอยู่ในเมืองพุทธศาสนา ได้รับผลกระทบน้อย ชาวบ้านและความเป็นอยู่ของประเทศก็ไม่ปกติเหมือนที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ประเทศไทยเราในปีนี้ยังประคับประคองไปได้ ซึ่งบ้านเมืองเราได้รับผลกระทบบ้าง แต่ผู้นำคนต่อไปนั้นได้รู้ซึ้งถึงความเป็นไทย ความเข้มแข็งของชาติไทย ในด้านชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็ยังคงอยู่ อานิสงส์ของชาติบ้านเมืองเรายังอยู่” โหรวารินทร์ ทำนาย

โหรวารินทร์ ยังกล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ จะไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะจะมาตามเวลา ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ปรากฏออกมา ส่วนผู้ที่ทำลายชาติบ้านเมืองเมื่อถึงเวลาก็จะหมดออกไป ภายในปีนี้เกิดขึ้นแน่นอน อาจจะเปลี่ยนแปลงหลังเมษายน 2567 เป็นต้นไป แต่เมื่อถึงเวลาก็จะปรากฏออกมา ตอนนี้ไม่สามารถที่จะกล่าวถึงผู้หนึ่งผู้ใดได้เป็นคณะรัฐบาลต่อไป แต่ผู้นำจะประกอบด้วยคุณธรรม มีความสามารถประคับประคองชาติบ้านเมือง ผู้นำคนต่อไปเป็นผู้ชาย และอยู่ในประเทศไทย อายุไม่มากเท่าไหร่

โหรวารินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทนั้น อยากบอกว่า สิ่งที่เราจะได้จากทรัพยากรในประเทศ ไม่ใช่การกู้ยืม ไทยเราขึ้นมาจากความเป็นไทย เราไม่เคยไปพึ่งพาใครมาก่อน การที่เราไปพึ่งพาหรือไปกู้ยืมแล้วมาแจกจ่ายกัน ไม่ใช่วิถีของไทย และการที่บางคนจะทำด้วยการหาสมัครพรรคพวกอะไรเข้ามา โดยสร้างฐานให้กับตัวเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดมาก ในด้านจริยธรรมและศีลธรรม การให้คนทั้งชาติไปเป็นหนี้สินเขา และเอาส่วนหนึ่งไปแจกจ่ายให้กับคนไม่กี่กลุ่มซึ่งตรงนี้ควรพิจารณาให้ดี พอนำมาแล้วก็ต้องเป็นหนี้สิน สิ่งนี้ถูกต้องหรือไม่ ขอให้ทุกคนพิจารณาด้วยสติปัญญา