เมื่อวันที่ 23 ม.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 นำหมายค้นศาลจังหวัดตรัง ที่ ค32/2567 ลงวันที่ 22 ม.ค. 2567 เข้าค้นบ้านพัก ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง จับกุม นายทวีศักดิ์ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางสมุดจดบัญชีเงินกู้ลูกค้าดอกเบี้ยรายวัน 6 เล่ม อัตราดอกเบี้ยร้อยละห้าสิบต่อเดือน สมุดจดบัญชีเงินกู้ลูกค้าดอกเบี้ยรายเดือน 1 เล่ม อัตราดอกเบี้ยร้อยละสิบต่อเดือน สมุดบัญชีเงินฝาก หนังสือสัญญาเงินกู้ระบุสัญญาทำขึ้นระหว่าง นายทวีศักดิ์ ผู้ให้กู้

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายทวีศักดิ์ เป็นนายทุนเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดอกลอยกู้ 1,000 บาท จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 60 บาท โดยไม่หักเงินต้นทุกวันจนกว่าจะคืนเงินต้นเต็มจำนวน ส่วนราย 30 วัน กู้ 1,000 บาท จะต้องเสียเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันละ 40 บาท ติดต่อกันทุกวันจนครบ 30 วัน ถือเป็นสิ้นสุด 1,200 บาท ราย 10 วัน กู้ 1,000 บาท จะต้องเสียเงินต้นรวมดอกเบี้ย วันละ 120 บาท ติดต่อกันทุกวันจนครบ 10 วัน ถือเป็นสิ้นสุด 1,200 บาท ส่วนรายเดือนคิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10 โดยใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวในการโพสต์หาลูกค้า และคัดลูกค้าจากผู้ที่มีโปรไฟล์เฟซบุ๊กที่ชัดเจน มีจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊กหลัก 100 คนขึ้นไป มีอาชีพและที่มาของรายได้ที่ชัดเจนแล้วจึงจะให้สินเชื่อ

โดยให้ผู้กู้เป็นคนเขียนสัญญาแต่ฝ่ายเดียว รวมถึงอัดคลิปวิดีโอโดยให้พูดประโยคข้อความในการขอกู้เงิน มีสาระสำคัญคือ หากผู้กู้กระทำผิดสัญญา ไม่คืนเงินต้นหรือไม่จ่ายดอกเบี้ย จะยินยอมให้ประจานทางสื่อโซเชียล หรือดำเนินคดีกับผู้กู้โดยไม่ฟ้องร้องหรือเอาความกับนายทวีศักดิ์ บางรายถึงขั้นพูดว่า จะยอมให้ประจานชื่อพ่อแม่ หรือเอาตัวขัดดอก หรือยอมขายตัวเพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ แล้วส่งคลิปหรือหลักฐานสัญญามาให้นายทวีศักดิ์ทางช่องทางไลน์ หรือแมสเซนเจอร์

โดยนายทวีศักดิ์ จะโหลดเก็บไว้เป็นหลักประกัน และจะนำมาโพสต์ประจานกดดันลูกหนี้ถ้าทำผิดสัญญา ทั้งยังร่วมกับนายทุนเงินกู้รายอื่นเปิดกลุ่มเฟซบุ๊กเพื่อใช้เช็กเครดิตลูกค้า เป็นการช่วยกันสกรีนลูกค้าที่อาจตั้งใจมาโกงเจ้าหนี้ ที่ผ่านมาได้โพสต์ประจานลูกหนี้ตามเพจต่างๆ โดยตลอด ตรวจสอบจากบัญชีลูกหนี้พบว่าทำมาหลายปีก่อนจะถูกจับกุมในครั้งนี้ หลังจากนายทวีศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมปรากฏความเคลื่อนไหวนายทุนเงินกู้รายอื่นต่างทยอยออกจากกลุ่ม และทยอยปิดกลุ่มทั้งที่เป็นกลุ่มเช็กเครดิต และกลุ่มประจานลูกหนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยการจัดมาซึ่งเงินทุน แล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นผู้ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินของตนโดยคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นซึ่งเมื่อคำนวณแล้วเกินกว่าร้อยละสิบห้าต่อปี ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไป เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ทวงถามหนี้จากลูกหนี้ด้วยวิธีการโพสต์ภาพถ่ายลูกหนี้ บัตรประจำตัวประชาชนลูกหนี้ และคลิปวิดีโอขณะลูกหนี้พูดข้อความขอกู้ยืมเงินจากตน ลงบนเฟซบุ๊กเพื่อประจานลูกหนี้ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทําการทวงถามหนี้ในลักษณะดังต่อไปนี้ การแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้ เว้นแต่เป็นกรณี จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป