นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ในปี 67 นี้พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มแข่งขันจัดโปรโมชั่น เร่งการขายกันตั้งแต่ต้นปี เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายไตรมาส 1 ในกลุ่มอสังหาฯ ปีนี้ทำนิวไฮสูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งเห็นได้จากการจองพื้นที่จัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 45 ปีนี้มียอดขายบูธไปแล้วกว่า 90% โดยเฉพาะรายใหญ่ที่จองมากขึ้นจากสัดส่วน 30% เพิ่มเป็น 40-50% โดยที่ออริจิ้นจองมากที่สุดตามด้วย อนันดา และแสนสิริ

“การที่ผู้ประกอบการรายใหญ่แห่กันเข้ามาจองบูธจัดงานในครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าประสิทธิภาพของงานมหกรรมบ้านและคอนโดยังดีหลังเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้เหนื่อยน้อยกว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า และยังมีทีมผู้จัดงานช่วยทำตลาดให้ หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะมีการจัดงานด้วยตนเองมากกว่า”

นายภูมิภัทร พรหมมา ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 กล่าวว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นจากความร่วมมือของ 3 สมาคมอสังหาฯ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร  โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค.67 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้ได้ใช้เงินลงทุนในการจัดงานเกือบ 7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับและสร้างมุมมองใหม่ให้กับมหกรรมบ้านและคอนโดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนทุกเพศทุกวัยทุกสไตล์ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ใช้ได้ตามจริง ตั้งเป้าหมายมียอดจองในงานเพิ่มขึ้น 10-20% จาก 4,000 ล้านบาทในปีก่อน

สำหรับกลุ่มที่คาดว่าจะขายดีที่สุดปีนี้ คือกลุ่มสินค้าประเภทอาคารชุด และบ้านแนวราบ ที่มีราคา 7-10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนสินค้าในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท อาจจะมีผลกระทบจากปัจจัย ทั้งกำลังซื้อที่ยังจำกัดในบางกลุ่ม หนี้ครัวเรือนที่สูง ความเข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร และมาตรการแอลทีวีที่ยังมีอยู่ แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสอยู่ อีกทั้งยังเชื่อว่าเร็วๆ นี้ ภาครัฐอาจจะมีนโยบายหรือมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ อย่างทั่วถึงในทุกกลุ่ม เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ ไทยให้คึกคักมากขึ้นสำหรับต้นปีนี้อย่างแน่นอน