จากกรณีที่ พระเอกหมอลำชื่อดังคณะหนึ่ง โดนพระมหารูปหนึ่ง และพระเพื่อนสนิท หลอกให้ขึ้นกุฏิที่วัด ใน ต.นาข่า จ.อุดรธานี แล้วบังคับจะมีเซ็กซ์หมู่ แต่พระเอกหมอลำร้องโวยวาย และหนีออกมาได้ จึงโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาว่า “อย่าดูถูกหมอลำ ถ้าชอบเรื่องอย่างว่าก็อย่าบวช หมอลำไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อมาลัยทุกคน คนอื่นอาจจะยอมแต่ไม่ใช่ผม เล่นผิดคนบอกเลย มารศาสนา” ก่อนจะมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพื่อตีแผ่เรื่องของพระหื่นกามสองรูปนี้และไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเพียงเอาผ้าเหลืองมาบังหน้านั้น
     

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับทางพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนท่านได้ลืมเป้าหมายในการบวชไปแล้ว ลืมเรื่องความสงบ ความเรียบร้อยดีงาม หอมศีล หอมธรรม หอมวินัย ไม่ใช่ชวนใครไปหอมแก้ม ย่ำยีให้ศาสนาเสื่อม จึงอยากให้คิดแลกถึงพระมหาว่าเรียนไปตั้งหลายประโยคถึงขั้นเป็นพระมหาแล้ว ทำไมไม่ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความรู้ ไม่ใช่ว่ารู้ดี รู้ชอบ รู้ชั่ว รู้ผิด รู้แต่ยังทำ รู้ที่จะหลอกเขาเข้าไปในกุฏิ ถือว่าเป็นการรู้ชั่ว เป็นผู้เสื่อม ทำไมต้องเอาความรู้ที่ตัวเองมีอยู่ไปทำให้เสื่อมเสีย แทนที่เอาความรู้ไปใช้ในทางที่ดีให้มันล้ำเลิศ ถ้าเรียนถูกเรียนดีเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด แต่ดูลักษณะมหาโกงเรียนมาหรือไม่ ถึงไม่มีความคิด จะเตือนไว้ว่า พระคุณเจ้าทั้งหลาย ที่ได้พระมหาเปรียญ แต่ยังเวียนไปหาก้นเขา มันไม่ถูก แทนที่จะเป็น

พระมหาเปรียญเวียนเข้าหามักผล อย่าเวียนไปหาก้น หาร่องที่ไม่เป็นความสะอาดบริสุทธิ์ มีแต่กระชากพรหมจรรย์ให้เศร้าหมอง บวชมาทั้งทีต้องเอาดีให้ได้ ไม่ใช่บวชมาทั้งทีเล่นอัปรีย์ ลามกจกเปรต พอทีพระคุณเจ้า แสวงหาทางหลุดพ้นบ้าง ไม่ใช่แสวงหาความสุขบนเนื้อหนังจนบ้าคลั่ง เสียสารรูปความรู้.