เมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ร่วมกับ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จัดกิจกรรม “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี 2567” ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

พร้อมทั้งได้จัดให้มี เวทีเสวนาพิเศษหัวข้อ “ภัยจากฝุ่นควันและแนวทางแห่งความร่วมมือช่วยกันลด PM 2.5” ณ ศูนย์เรียนรู้โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีนายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม

สำหรับ การจัดกิจกรรม “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า“ ถือกำเนิดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 เห็นชอบและอนุมัติให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนและเกษตรกรงดการจุดไฟเผาป่าและลดควันพิษที่เกิดจากการเผาป่า รวมถึงการสร้างจิตสำนึกในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี จึงร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันนี้ขึ้น โดยมีการมอบเงินอุดหนุนให้แก่เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) และเครือข่ายราษฎรพิทักษ์ป่า รวมจำนวน 64 เครือข่าย เป็นเงินทั้งสิ้น 3,200,000 บาท พร้อมทั้งยังจัดให้มีเวทีเสวนาพิเศษ หัวข้อ “ภัยจากกลุ่มควันและแนวทางแห่งความร่วมมือช่วยกันลด PM 2.5” รวมไปถึงได้มีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายชุมชนต่างๆ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าหน่วยงานในจังหวัดเพชรบุรี เครือข่ายและประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 400 คน