กรณี ตำรวจ ปปป. ร่วมจับกุม พระครู อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตพระนคร กรุงเทพฯ และนายปานจิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี หลังร่วมกันยักยอกเงินวัดกว่า 200 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ช็อก! บุกรวบผู้ช่วยเจ้าวัดชื่อดังกลางกรุง ร่วมยักยอกเงินวัดกว่า 200 ล้านบาท

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบสวน บก.ปปป. สอบปากคำผู้ต้องทั้ง 2 ราย ตลอดทั้งคืน ก็ยังคงมีเพียงแค่นายปานจิตร ที่ยอมเปิดปากให้การยอมรับสารภาพ เนื่องจากจำนนต่อหลักฐานเส้นทางการเงินบัญชีส่วนตัว ที่มีเงินเข้ากว่า 25-30 ล้านบาท ส่วนพระครูรูปดังกล่าว ยังยืนกรานปฏิเสธ รวมถึงไม่ยอมเปล่งวาจาลาสิกขา ยอมเพียงแค่ถอดจีวร เปลี่ยนเป็นชุดไปรเวท เดินเข้าห้องขังเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบปากคำในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะเร่งนำตัวทั้ง 2 ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังผัดแรก รอสรุปสำนวนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้กระทำผิดจะมีเพียงแค่ 2 รายนี้เท่านั้น เนื่องจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ จนถึงขณะนี้ สามารถพิสูจน์ทราบปลายทางของเงินที่หายไปได้เพียง 25-30 ล้านบาท ยังคงเหลือส่วนที่อยู่ระหว่างติดตามอีกกว่าร้อยล้านบาท จึงเชื่อว่าน่าจะมีตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมกระทำผิดด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบให้แน่ชัดต่อไป