เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ หรือท่านอ่อง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเทคนิคการใช้ชีวิตจากอายุ 41 ให้กลับมา 21 อีกครั้ง โดยระบุว่า “อายุ 41 ก็คือการกลับมา 21 อีกครั้งครับ ฮ่าฮ่า” ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผมได้แบ่งปันบทเรียนต่างๆ ที่ผมได้เรียนรู้และการที่เราจะปรับปรุงตัวเองได้อย่างไร ในปีนี้ผมได้เพิ่มข้อคิดอีกข้อหนึ่งเข้าไปด้วยครับ
– ทำกลุ่มเพื่อนที่จริงใจและคนสนิทของคุณให้เล็กเข้าไว้ มันง่ายที่จะหาเพื่อน แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะรู้ว่าใครที่เราจะไว้วางใจได้ อย่าหลงลืมและหมั่นดูแลผู้คนที่ช่วยเหลือคุณให้มาถึงจุดนี้ในชีวิต

และนี่ก็คือข้อคิดจากปีก่อนๆ ครับ…
– อย่าหลับหูหลับตาเชื่อ: ถ้ามีคนบอกว่าเพื่อนของคุณทำเรื่องไม่ดี (ใช่ มันน่าเศร้าที่มีคนแบบนี้จริงๆ ในโลกที่ชอบปล่อยข่าวลือเพื่อทำให้คนอื่นเสื่อมเสีย), จงเปิดอกคุยกับเพื่อนคุณเสียก่อน อย่าเพิ่งหลับหูหลับตาเชื่อหรือตัดสิน สิ่งที่คุณได้ยินมาโดยไม่ได้ฟังความจากทั้งสองฝ่าย

– การรับรู้: เราทุกคนรับรู้ มองโลก และประพฤติตัวแตกต่างกันไป เจตนาของคุณอาจเป็นการแสดงความเห็นคุณค่า ความชื่นชม และ ความขอบคุณไปยังอีกฝ่าย แต่ในขณะเดียวกันอีกคนอาจมองว่าพฤติกรรมของคุณช่างอวดดีและอกตัญญู มันย่อมดีกว่าหากคุณหมั่นถอยหลังก้าวออกมามองพฤติกรรมของเราเองจากหลากหลายมุมมอง

– มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ: เราทุกคนต่างมีคนคอยให้พักพิงเพื่อประคับประคองและสนับสนุน แต่มีเพียงคนเดียวที่เราสามารถพึ่งพาได้มากที่สุดคือ -ตัวของเราเอง

– ความเคารพ: ต่อให้เรามีความขัดแย้งและเห็นต่างกับคนข้างๆ แต่ควรจะมีพื้นที่สำหรับความเคารพซึ่งกันและกันและความเป็นมิตรเสมอ

– เราเปลี่ยนแปลงคนข้างๆไม่ได้ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเราได้ อย่างไรก็ตาม เราควรจะมีความยุติธรรมต่อกันและไม่เกลียดชังกันโดยไร้ซึ่งเหตุผล (เช่นเกลียดคนบางคนเพราะสายเลือดของเขา)

– ความเมตตากรุณานั้นเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ดังนั้นจงแจกจ่ายมันออกไป และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเพื่อสังคมที่ดีขึ้น แรงบันดาลใจนั้น ถูกหยิบฉวยโดยใครก็ได้ ที่ไหนก็ได้ เมื่อใดก็ได้ ดังนั้นจงออกไปแล้วสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นนะครับ!

– รักและเคารพนับถือตัวเอง: คุณไม่สามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นได้หากคุณไม่เริ่มรักตนเองก่อน ความจริงใจและความซื่อสัตย์ต่อตนเองจะนำไปสู่ความซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น ความซื่อสัตย์คือกุญแจสำคัญต่อทุกความสัมพันธ์ หากปราศจากความซื่อสัตย์ ความไม่ไว้วางใจจะตามมาแล้วความสัมพันธ์ที่เป็นพิษจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น

– มีสติบนโลกออนไลน์: ในยุคของโซเชียลมีเดีย การกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ตยิ่งมีมากขึ้น โดยฝ่ายที่เป็นผู้แกล้งสามารถซ่อนตัวอย่างขี้ขลาดภายใต้ตัวตนจำลอง (อวทาร์) การกลั่นแกล้งแบบนี้ อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าหรือแม้แต่การทำร้ายตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือการแยกแยะระหว่างการกลั่นแกล้งกันบนโลกอินเทอร์เน็ตกับเสรีภาพในการพูด ว่าทั้งสองสิ่งต่างกันโดยสิ้นเชิง เราควรให้ค่ากับเสรีภาพในการพูดและแสดงออก รวมไปถึงความโปร่งใส มันจะนำสังคมของเราไปในทางที่เป็นผลดีแน่นอน อย่างไรก็ตาม มันต้องไม่มีที่ให้กลั่นแกล้งกันเพราะความอิจฉาริษยา..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Chakriwat Vivacharawongse