เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบการปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ตามที่สำนักงบประมาณรายงานว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2567 สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ จึงมีมติเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2567 ให้ปรับกำหนดวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ พ.ศ.2567 ดังนี้ 1.สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2567 วาระที่ 2-3 เดิมกำหนดวันที่ 3-4 เม.ย.2567 เป็นวันที่ 20-21 มี.ค.2567

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า 2.วุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เดิมกำหนดวันที่ 9-10 เม.ย.2567 เป็นวันที่ 25-26 มี.ค.2567 3.สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปนั้น จากกำหนดเดิมวันที่ 17 เม.ย.2567 เปลี่ยนเป็นวันที่ 3 เม.ย.2567

นายคารม กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมี 101 หน่วยรับงบประมาณ ขอเสนอปรับเพิ่มงบประมาณปี 2567 เป็นจำนวน 261,519.34 ล้านบาท เพื่อปรับให้สอดคล้องกับแผน ขั้นตอน หลักเกณฑ์ และ แผนยุทธศาสตร์ชาติ แต่ครม.เห็นชอบตามที่ สำนักงบประมาณปรับลดเหลือ 60,164.30 ล้านบาท และในจำนวนนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ขอปรับเพิ่มงบประมาณ เพื่อจ้างนักการภารโรงจำนวน 13,751 อัตรา ในอัตราเดือนละ 9,000 บาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 618.75 ล้านบาท เป็นเวลา 5 เดือน ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย.2567