เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 67 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตพญาไท กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา ร่วมกับ นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เครือข่ายอนุรักษ์ 23 องค์กร รอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กรณีข้อพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อทำการเกษตร ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามกลับไปยัง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

โดยเครือข่ายฯ ต้องการให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน และรวดเร็ว และสิ่งที่เกิดขึ้น กำลังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่บริเวณโดยรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบให้กับการเป็นมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นับวันจะมีปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งการปลูกสร้างอาคาร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการสร้างเขื่อน เป็นต้น

ขณะที่ เครือข่ายฯ ได้ยืนเอกสารแถลงการณ์ 5 ข้อ “เซฟเขาใหญ่ให้ปลอดภัยจาก ส.ป.ก.” ดังนี้ 1.เขาใหญ่เป็นป่าต้นน้ำ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า จึงควรรักษาไว้เป็นมรดกร่วมกันไม่ใช่จัดสรรให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด

2.การทุจริตใช้อำนาจ กลไกรัฐ ออก ส.ป.ก. ที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน คือเป็นพื้นที่ป่า/ล่อแหลมต่อการคุกคามระบบนิเวศ/เป็นพื้นที่ซึ่งยังไม่เคยครอบครองทำประโยชน์มาก่อน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามออกเอกสารดังกล่าว 3.กรณีเป็นพื้นที่ทับซ้อนของรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาร่วมกัน ไม่ใช่ดำเนินการลำพังหวังประโยชน์คนใดคนหนึ่ง

4.พื้นที่ที่ออกเอกสาร มีราคาซื้อขายไร่ละไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน ถึง 20 ล้าน จึงถูกกลุ่มทุนและการเมืองพยายามบุกรุก โดยกดดันเจ้าหน้าที่รัฐให้เอื้อประโยชน์คนกลุ่มนี้ตลอด และ 5.นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีความพยายามออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. แต่ครั้งนี้กลุ่มทุนอาจจะแพ้ แต่ผืนป่าเขาใหญ่ยังถูกคุกคาม จึงเห็นว่าควรสร้างการรับรู้ร่วมกัน สร้างความชัดเจนเรื่องแนวเขต และสร้างเจ้าหน้าที่ปกป้องป่า

เบื้องต้นทางเครือข่ายฯ ยังมอบต้นไม้ และรูปถ่ายนกเงือก ที่แสดงออกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขาใหญ่ พร้อมมีความห่วงใยกับกรณีดังกล่าว และได้ข้อสรุปแล้วว่า กรณีข้อพิพาทที่ดินอุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นของ ส.ป.ก. ดังนั้น ต้องชี้แจงให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจ เพราะเครือข่ายฯ รู้สึกเป็นห่วงในประเด็นดังกล่าว มุ่งหวังทวงคืนผืนป่าอุทยานฯ หยุด ส.ป.ก. รุกป่า พร้อมฝากท่านรัฐมนตรี เพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศให้มากขึ้นกว่าเดิม

ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว ตนให้ความสำคัญในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความตั้งใจให้ผืนป่าอุทยานมีความอุดมสมบูรณ์ และเตรียมขับเคลื่อนทุกภาคส่วน ในกรณีมีข้อพิพาท ได้พูดคุยกันทั้ง 2 กระทรวง เป็นนโยบายของรัฐบาล เป็นเขตแนวกันชน และจะปลูกป่าสีเขียวให้หมด ยืนยัน ส.ป.ก. มาบุกรุกไม่ได้แน่นอน.