เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ,นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

นำกำลังทลายเครือข่ายขายนมผงปลอม โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี 4 จุด และจังหวัดสมุทรสาคร 1 จุด ประกอบด้วย 1.บ้านเลขที่ 56/27 หมู่บ้านพฤษา 40 หมู่ 3 ต.คลองสามอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.หอพักวิชาญอพาร์ตเม้นต์ เลขที่21/21 ห้องเช่าที่ 632 หมู่5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3.แกรนด์โมเดิร์นคอนโด ห้องเลขที่ 59/16 อาคาร บี ชั้นที่1 หมู่5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ 4.บ้านเลขที่ 69/6 ซอยชุมพล ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมจับกุมตัวนายธนเดช อยู่แจ้ง อายุ 48 ปี เจ้าของ น.ส.รุ่งฤดี ปะวันโน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่รับออเเอร์และการเงิน

โดยจุดที่น่าสนใจที่บ้านเลขที่ 56/27 หมู่บ้านพฤษา 40 หมู่ 3 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุม MR.DINH VINH LE อายุ 30 ปี และ MISS THAN DIEUHUONG อายุ 29 ปี สัญชาติเวียดนาม แสดงตนเป็นผู้ดูแลบ้านและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และตรวจค้นพบ ของกลาง ได้แก่ สินค้า ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทนมผง แชมพู ฟินเลอร์ และผลิตภัณฑ์อื่นที่เข้าข่าย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย รวมเป็นจำนวนกว่า 30,000 ชิ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ดร.พวงเห็ชร กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เนื่องมาจากมีผู้มาร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ว่ามีการส่งสินค้าไปที่บ้านพัก โดยที่ผู้ร้องทุกข์ไม่ได้สั่งสินค้า หรือบางครั้งก็ได้สินค้าไม่ตรงปก ทำให้ต้องเสียเงินไปโดยใช่เหตุ วันนี้จึงได้บูรณาการร่วมกันจากหลายฝ่าย สืบทราบจนนำมาสู่การเข้าค้นพื้นที่ในวันนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งผ่านแพลตฟอร์ม ซื้อของออนไลน์ชื่อดังด้วย จึงต้องเรียกมาตรวจสอบว่าผู้ขายได้มีการลงทะเบียนไว้กับทั้ง 2 แพลตฟอร์มไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปที่มีการรับพัสดุก็ต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าใช่สินค้าที่ตัวเองสั่งหรือไม่หรือราคาตรงกับรายการที่ตัวเองต้องเสียหรือไม่เพื่อ ป้องกัน ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มพวกนี้

ด้าน พล.ต.ต.นิพล กล่าวว่า ภายหลังการร้องเรียน และมีการรวบรวมข้อมูล พบว่า กลุ่มดังกล่าวมีการค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าควบคุม เช่น นมผง เมื่อตรวจสอบลึกลงไปก็พบว่าสินค้าตัวดังกล่าวมีการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงได้มีการทดลองสั่งซื้อเมื่อได้สินค้าก็ส่งต่อให้กับ อย. เป็นผู้ตรวจสอบ ก็พบว่าสินค้าตัวดังกล่าวไม่ได้มีการจดแจ้งและไม่ได้มีการประทับตรา อย. จึงได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานที่ตั้ง ก่อนจะเข้าตรวจค้นในวันนี้ จากการตรวจสอบบัญชีพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการขายสินค้า ได้ประมาณ 4,000 กว่ารายการเป็นเงินประมาณ 9 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งสินค้า 4,000 กว่ารายการ มีประมาณ 200 รายการที่ถูกตีกลับ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลักษณะการส่งของโดยที่ผู้เสียหาย ที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อจริง และจากการสังเกตพบว่าสินค้าที่ นำไปส่งนั้นมีต้นทุนอยู่ในราคาประมาณ 10 กว่าบาท แต่มีการ ลงทะเบียนเก็บปลายทาง เป็นเงินกว่า 200 บาท ถ้าผู้เสียหายหรือเหยื่อติดกับก็เท่ากับว่าเขาได้ กำไรจากสินค้าชิ้นนั้น 100 กว่าบาท

โดยกลุ่มพวกนี้จะมีแนวคิดที่ว่าส่งสินค้าไป 1,000 ชิ้น ถ้าเกิดมีผู้หลงเชื่อยอมจ่ายเงิน 100 ชิ้น ต่อให้สินค้าอีก 900 ชิ้นตีกลับมาเขาก็จะได้กำไรจาก 100 ชิ้นที่มีผู้เสียหาหลงเชื่อยอมจ่ายเงินอยู่ดี ทุกวันนี้เราสามารถจับผู้ต้องหาได้เป็นชาวเวียดนาม คาดว่าน่าจะเป็นลูกจ้าง ส่วนตัวการใหญ่นั้นจากที่เราศึกษาพบว่าเป็นคนไทย 1 ราย และเป็นคนประเทศเพื่อนบ้านอีก 1 ราย ตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวจับกลุ่มเพราะว่าเรามีข้อมูลในเรื่องการเดินทางอยู่พอสมควร

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางแพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ชื่อดัง ได้เข้าพูดคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องแนวทางในการ ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องมีการหารือเรื่องของการโฆษณา สำหรับ สินค้าควบคุม ว่าจะมีแนวทางอย่างไร หากอยู่ในแพลตฟอร์มดังกล่าว ในส่วนของการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ เป็นการโฆษณาสินค้าเกินจริง ซึ่งในวันนี้ ก็ได้มีการเชิญ อย. เข้ามาตรวจสอบ ผ่านทาง อย. ในส่วนนี้ก็อาจจะผิดกฎหมาย ด้วยเช่นเดียวกัน

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นในวันนี้เราพบสินค้าที่ควบคุม อยู่ 5 ประเภท อาหาร เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ยา และ สมุนไพร เท่าที่สังเกตพบว่าสินค้าส่วนใหญ่คาดว่า เป็นสินค้านำเข้า เนื่องจากฉลากที่เป็นภาษาไทยนั้น เป็นการแปลมาจาก Google Translate ประกอบกับสินค้าทั้ง 5 ประเภทนั้นไม่ได้มีการจดแจ้งกับ อย. ซึ่งมีความผิดใน 5 พ.ร.บ. หลายมาตร มีโทษจำคุก 3 ปีปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อยากฝากเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนสำหรับสินค้าที่เป็นสินค้าควบคุมนั้นควรจะต้องได้รับการอนุญาตจากอยเสียก่อนในเรื่องของคุณภาพ อย่างเช่นสินค้าประเภทความสวยความงามอย่างฟิลเลอร์เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสินค้าพวกนี้ผลิตมาจากแหล่งใด ถ้าหากไปอยู่ในสถาบันเสริมความงามหรือหมอกระเป๋าทั่วไปก็อาจจะเกิดอันตรายกับผู้บริโภคได้ ดังนั้นผู้บริโภคเองก็ต้องคำนึงถึงหลักที่มาของสินค้าเหล่านี้ด้วยเพื่อความปลอดภัยของตนเอง.