เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่  29 ก.พ. ที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช คุณทวด อายุ 96 ปี  ชาว จ.นครศรีธรรมราช ได้ถือไม้เท้า มีลูกสาว 2 คนพยุงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ว่า ตนได้ถูกลูกสาวคนหนึ่ง อายุ 57 ปี ซึ่งอดีตเคยเป็นทนายความและถูกถอนใบอนุญาตแล้ว โดยเมื่อประมาณเดือน ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ลูกสาวคนดังกล่าว ซึ่งหายหน้าหายตาไปนานหลายปีไม่เคยกลับมาเยี่ยมตน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวได้เข้ามาทำดีตีสนิทกับตน และหลอกให้ตนไปที่สำนักงานที่ดินอำเภอช้างกลางและที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอฉวาง หลอกตนว่าจะพาไปทำโฉนดใหม่ให้ แต่ปรากฏว่ากลับหลอกให้ตนเซ็นชื่อปิดบัญชีถอนเงินกว่า 1.2  ล้านบาทจนหมดบัญชี แล้วโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของตัวเอง แล้วยังหลอกให้ตนเซ็นเอกสารอ้างว่าจะเอาไปทำโฉนดใหม่ สุดท้ายมาทราบภายหลังว่าถูกหลอกให้เซ็นชื่อโอนโฉนดไปเป็นชื่อของลูกสาว เนื้อที่ 3 แปลงหรือกว่า 60 ไร่ มูลค่าประมาณ 20-30 ล้าน

หลังจากลูกสาวได้ทั้งเงินและที่ดินไปจนตนหมดเนื้อหมดตัว แล้วก็หายตัวไปไม่กลับมาอีกเลย  ทราบว่าไปอยู่จังหวัดแถวภาคเหนือ หรือภาคอีสาน และได้ขับไล่ตนออกจากบ้าน และให้ลูกมาอยู่บ้านที่ตนเป็นคนเก็บหอมรอมริบสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ตนไม่มีที่อยู่อาศัย อายุก็มากเกือบ 100 ปีแล้ว  จึงระหกระเหินไปอาศัยบ้านของลูกที่เหลืออีก 2 คน เพื่อขออาศัยหลับนอน และกินอยู่ประทังชีวิตไปวันๆ แต่ละคืนนอนคิดรู้สึกเจ็บปวดใจ ร้องไห้ทุกคืน เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีลูกอกตัญญู หรือเนรคุณแบบนี้ ตนเบ่งเกิดมาด้วยตัวเอง เลี้ยงดู ส่งเสียให้เล่าเรียนด้วยความยากลำบาก จนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ เป็นทนายความแต่กลับมาหลอกลวงโกงเอาเงินสด 1.2 ล้านและที่ดิน 3 แปลง 60 ไร่ของตนไป แล้วใจดำอำมหิตขับไล่ตนเหมือนหมูเหมือนหมาออกจากบ้าน ตนมาขออาศัยอยู่กับลูกๆ ที่เหลือ 2 คนซึ่งทั้งสองได้เรียนหนังสือไม่สูง เพราะเสียสละให้น้องเรียนจนจบปริญญา  และในที่สุดชีวิตบั้นปลายของตนต้องมาพึ่งพาอาศัยลูก 2 คนที่ตนไม่ค่อยได้ส่งเสีย  ส่วนลูกสุดรักสุดโปรดกลับมาทำกับแม่บังเกิดเกล้าได้ลงคอ

คุณทวด กล่าวว่า ทางญาติๆ และลูกๆ ได้ช่วยกันออกเงินเป็นค่าทนายความไปฟ้องศาล เพื่อเรียกร้องทวงเงินกว่า 1.2 ล้านบาทและที่ดินกว่า 60 ไร่คืนจากลูกสาวเนรคุณคนดังกล่าว เพราะถูกหลอกให้เซ็น ไม่มีเจตนายกให้ใครเลย แต่หลังสู้คดีมา 2 ศาล ตนก็แพ้มาตลอด เนื่องจากสู้หลักฐานที่ลูกสาวคนดังกล่าวเอามาต่อสู้อ้างว่ามีลายเซ็นของตนในโฉนดที่ดินชัดเจน และลายเซ็นตอนถอนเงินด้วย ทั้งๆ ที่ตนถูกลูกสาวหลอกให้เซ็นชื่อ อ้างว่าจะเอาไปทำโฉนดใหม่ ซึ่งตนจะเดินหน้ายื่นศาลฎีกาสู้คดีต่อ และเดินหน้าร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เพื่อทวงความเป็นธรรมคืนกลับมาให้ได้ ตนจะสู้จนตายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมและได้ทรัพย์สินทั้งหมดคืนมาจากลูกสาวจอมเนรคุณ ตนจึงอยากจะวิงวอนให้หน่วยงานใดก็ได้เข้ามาช่วยเหลือตนด้วย