เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นอภ.สังขละบุรี นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.)หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจด้านความมั่นคงบริเวณจุดตรวจบ้านจงอั่ว ถนนสาย 323 ระหว่างอำเภอสังขละบุรี ไปอำเภอทองผาภูมิ หมู่ 3 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกชนิดอย่างเคร่งครัด
โดยเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 6 คัน ประกอบด้วยรถกระบะ 5 คัน รถเก๋ง 1 คัน วิ่งตามกันมาผิดสังเกตจึงเรียกรถยนต์ทั้งหมดให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบชาวเมียนมานั่งอยู่ภายในรถทั้งบริเวณภายในเก๋งและบริเวณกระบะ รวมทั้งหมด 36 คน จึงได้ทำการตรวจสอบชาวเมียนมาทั้งหมดให้ลงจากรถ เพื่อทำการตรวจสอบเอกสาร
เบื้องต้นคนขับรถทั้ง 6 คันได้แสดงเอกสารพาสปอร์ตของชาวเมียนมาทั้ง 36 คน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงนำตัวทั้งหมดพร้อมรถยนต์ทั้ง 6 คัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ
จากการตรวจสอบชาวเมียนมาทั้ง 36 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น อายุ 19 – 40 ปี ทั้งหญิงและชาย และจากการพูดคุยพบว่าทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองพญาตองซู ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ ม 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยการเดินหลบด่านความมั่นคงน้ำเกริ๊ก ก่อนจะมาขึ้นรถบริเวณพื้นที่บ้านซองกาเลีย ม. 8 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ซึ่งทั้งหมดให้ข้อมูลตรงกันว่าต้องการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อหนีนโยบายการเกณฑ์ทหารของทางการเมียนมา บางส่วนมีญาติมาทำงานอยู่ในประเทศไทยก่อนหน้านี้แล้ว จึงติดต่อเพื่อตามมาขออยู่อาศัยด้วย และหากมีงานให้ทำก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งในอนาคตหากสถานการณ์การเมืองในพม่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็พร้อมจะเดินทางกลับบ้านเกิด เนื่องจากยังมีครอบครัว ยังมีพ่อแม่ รออยู่ที่บ้าน
ด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพทุกคนพร้อมพาสปอร์ตแรงงาน เพื่อส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี ทำการตรวจสอบ ว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร เนื่องจากขณะนี้มีพบว่ามีกาขบวนการรปลอมแปลงพาสปอร์ตแรงงาน และหนังสือเดินทางให้ชาวเมียนมา ในพื้นที่เมืองพยาตองซู ในราคาเล่มละ 5,000 บาท ซึ่งกำลังเป็นปัญหาให้เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานตามด่านตรวจต่างๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความชำนาญหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ จึงเป็นช่องทางให้ขบวนการขนแรงงานชาวเมียนมา อาศัยเป็นช่องว่างในการทำผิดกฎหมาย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าพาสปอร์ตแรงงาน ทั้ง 36 เล่ม ที่คนขับรถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เป็นของปลอมก็จะดำเนินคดีกับคนขับรถทั้ง 6 คน ซึ่งทั้งหมดถือบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนและบางคนถือพาสปอร์ตแรงงาน
ทั้งนี้ในรอบ 1 สัปดาห์พบว่า เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีแล้วจำนวน 4 คดี รวม 120 คน.
