เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่โรมแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตีตกคำอุทธรณ์กองทัพเรือ ในโครงการจัดซื้อเรือฟริเกต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัดส่วน สส.เพื่อไทย ว่า ทางกรรมาธิการ ได้สะท้อนปัญหา และได้ทวงถามนโยบายของรัฐบาล ว่าถ้าจะให้ทั้งเรือฟริเกตและเรือดำน้ำในปีเดียวกัน งบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมจะโป่งพองขึ้น สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่จะลดบุคลากรและงบประมาณลงหรือไม่ จึงต้องมีการปรับแผน แต่ยืนยันว่าโครงการจัดหาเรือฟริเกต ยังคงเป็นไปตามแผน เพียงแต่ระยะเวลาต้องปรับเปลี่ยน อาจจะไม่ใช่ปีงบ 67 แต่ขยับไปเป็นปีงบประมาณอื่น เพราะขณะนี้เรื่องเรือดำน้ำก็อาจจะได้ข้อสรุป ซึ่งมีแนวโน้มจะต้องจัดงบซื้อเรือดำน้ำ จึงห่วงว่างบประมาณจะไม่พอ ต้องทำทีละอย่าง ซึ่งทางกรรมาธิการคุยกับรัฐบาล ก็มีความเห็นเป็นเช่นนี้ โดยอาจจะจัดหาในปีงบประมาณ 68

เมื่อถามว่างบฯ ปี 68 จะไปชนกับกองทัพอากาศ ที่ขอจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ จะดันเพดานของกระทรวงกลาโหมสูงอีกเช่นกัน นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงกลาโหมต้องบริหารจัดการให้ดี ทุกอย่างเราอยากให้เป็นไปตามแผนของเหล่าทัพ แต่จะสลับปรับเปลี่ยนอย่างไรเป็นเรื่องที่กำลังทำอยู่

เมื่อถามอีกว่างบประมาณ 1,700 ล้านบาท ของกองทัพเรือ จะนำเข้างบกลาง หรือคืนให้กองทัพเรือ นายสุทิน กล่าวว่า หากเป็นไปตามระบบ ก็ต้องนำเข้างบกลาง แต่ถ้างบฯ ก้อนนี้กองทัพเรืออยากได้เงินส่วนนั้นมาทำภารกิจอื่น เช่น การซ่อมบำรุงยุทธโธปกรณ์ ก็ต้องทำเรื่องขึ้นมาให้ทัน ซึ่งเชื่อว่าทางรัฐบาลจะพิจารณาให้กลับมาเป็นประโยชน์กับกองทัพเรือ

เมื่อถามต่อว่าการที่ต้องนำเงินส่งงบกลาง เพราะต้องนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันกับโครงการดังกล่าว เป็นเรื่องการจัดงบประมาณของแต่ละเหล่าทัพ ว่าจะเอาอะไรก่อนหลัง และต้องอยู่ในกรอบนโยบายของรัฐบาล เรียกว่าหมุนและปรับงบในส่วนของกระทรวงกลาโหม ไม่มีเรื่องนโยบายอื่นมาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการหาข้อสรุปโครงการเรือดำนั้น นายสุทิน กล่าวว่า น่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ เมื่อสรุปแล้วน่าจะต้องเป็นเรื่องที่ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดหา เบื้องต้นแนวโน้มก็คือเรือดำน้ำ แต่จะเป็นที่ไหนอย่างไร ต้องฟังคณะทำงาน

เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ยกเลิกเรือดำน้ำจีนแล้วไปจัดหาจากชาติอื่น นายสุทิน กล่าวว่า ต้องไปสอบถามคณะทำงาน แต่แนวทางที่จะเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือชนิดอื่น คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะจากการสอบถาม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาโครงการเรือดำน้ำ ก็บอกว่าต้องเป็นเรือดำน้ำ ส่วนจะเป็นเรือที่ไหนอย่างไร กรรมการยังคุยกันไม่เสร็จ แต่คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน.