เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 8 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พบหารือกับผู้บริหารภาคเอกชนฝรั่งเศส  โดยนายกฯ พบหารือกับนาย Sébastien Bazin ผู้บริหารบริษัท ACCOR Group Worldwide บริษัทชั้นนำในภาคธุรกิจการบริการ โดยเครือโรงแรม Accor เป็นเครือโรงแรมต่างประเทศใหญ่ที่สุดที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมจีนแผ่นดินใหญ่) โดยได้หารือกันเพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว Co-Promotion สนับสนุนการขาย โดย Accor Group Worldwide จะพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเปิดโรงแรมใหม่ในจุดหมายปลายทางอื่นๆ ของประเทศไทยเพิ่ม โดยกำลังพิจารณาหาโลเคชั่นและพันธมิตร 

จากนั้นเวลา 09.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นาย Pascal Morand ผู้บริหาร Fédération de la Haute Couture et de la Mode เข้าพบหารือนายกฯ โดยบริษัทดังกล่าว เป็นสหพันธ์แฟชั่นและการตัดเย็บชั้นสูงเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมแฟชั่นฝรั่งเศส มีสมาชิกมากกว่า 100 สมาคม โดยได้หารือเรื่องเป้าหมายของไทย ในการเป็น Southeast Asian center of fashion and design 

นายกฯ หารือผู้บริหารบริษัทแฟชั่น

โดยทั้งสองพูดคุยเรื่องความร่วมมือในการจัดกิจกรรมร่วมกันที่กรุงเทพฯ หรือ ปารีส เพื่อร่วมมือระหว่างบริษัทชั้นนำ รวมถึงการจัดโปรแกรมการฝึกฝนเพื่อพัฒนานักออกแบบรุ่นใหม่ และร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ จัดหลักสูตรพัฒนานักออกแบบรุ่นใหม่ทั้งในระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท

ต่อมาเวลา 10.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ผู้บริหารบริษัท Michelin เข้าพบหารือนายกฯ ซึ่งบริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะสัญชาติฝรั่งเศส มีความเชี่ยวชาญการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับยางล้อ โดยบริษัท Michelin ลงทุนในไทยแล้ว 5 โรงงาน จ้างงาน 8 พันคน ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโร หรือมากกว่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยใน 1 ปี บริษัทฯ ใช้ยางธรรมชาติมากกว่า 7 แสนล้านตันต่อปี และบริษัทฯ ระบุว่า ใน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มกำลังการผลิตลงทุนเพิ่มถึง 300 ล้านยูโร ทั้งนี้ บริษัทคำนึงถึงการเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานสะอาดในอนาคตอันใกล้ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือต่อประเด็นเรื่องกฎระเบียบใหม่ และรัฐบาลไทยพร้อมจะสนับสนุนช่วยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

จากนั้นเวลา 10.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Mr. Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ มิชลินไกด์ทั่วโลก (MICHELIN Guide International Director) เข้าพบหารือนายกฯ โดยในปีนี้ มิชลินจะจัดลำดับให้กับโรงแรม ซึ่งอาหารและที่พักถือเป็น key factor ที่สำคัญของการท่องเที่ยว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าปีหน้า (พ.ศ. 2568) จะเป็น Golden year of tourism จะจัด World class festival คอนเสิร์ต แฟชั่นในไทยเอง.