เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นขอเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการบริหารประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ว่า รัฐบาลไม่ต้องกลัวการยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายดังกล่าว เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามกลไกในรัฐธรรมนูญ การร่างญัตติดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์มีการประสานงานกับพรรคก้าวไกล ซึ่งญัตตินี้จะต้องครอบคลุมปัญหาทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้น สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมข้อมูลสำหรับการอภิปรายมาสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหลายเรื่องที่ต้องตอบในการอภิปรายครั้งนี้ และการที่รัฐบาลอ้างว่าขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มการใช้งบประมาณแผ่นดินนั้น ตนคิดว่ารัฐบาลไม่ควรอ้างเรื่องนี้ ขณะเดียวกันขอกลับถามว่า กรณีที่รัฐบาลใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นงบประมาณจากส่วนไหน และเป็นการใช้งบประมาณท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน ฝ่ายค้านจึงต้องตรวจสอบ

ทั้งนี้ นายราเมศ กล่าวอีกว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้มาบริหารประเทศ กว่า 6 เดือน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ไว้กับประชาชนและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงไม่ต่างจากรัฐบาลหน้าไหว้หลังหลอก และประชาชนสามารถคิดได้ว่าเป็นรัฐบาลที่กลิ้งกลอกและไม่จริงใจ ตนจึงคิดว่ามีหลายเรื่องที่จะถูกบรรจุในญัตติขอเปิดการอภิปรายฯ เพื่อซักถามในสิ่งที่รัฐบาลเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายดังกล่าว รวมถึงการทำงานของรัฐบาล ที่ไปไม่ถูกทิศถูกทางและการไร้ประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเติมเงินให้ประชาชน 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต การพักหนี้เกษตร ปัญหาปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการปลอมแปลงเอกสารราชการมาหลอกลวงประชาชน การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ล่าช้า การปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลเปลี่ยนผู้ค้าให้เป็นผู้ป่วย ความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานรัฐในเรื่องปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. แต่เพิกเฉยการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกร ปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รัฐบาลประกาศยึดหลักนิติธรรม แต่กลับหน้าไหว้หลังหลอก และย่ำยีกระบวนการยุติธรรม รวมถึงผิดหลักการทั้งหมด

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำให้ สส. ของพรรค ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค และนายประมวล พงศ์ถาวราเดช รองหัวหน้าพรรค และประธาน สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้สนับสนุนข้อมูลการอภิปรายฯ และเราจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา โดยตนเชื่อมั่นว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และตนเชื่อว่ารัฐบาลจะจัดสรรเวลาที่จะมาฟังและตอบข้อซักถามของสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ต้องการให้เหมือนกับกรณีที่รัฐมนตรีไม่ได้มาตอบกระทู้ถามสด โดยไม่อยากให้รัฐมนตรีละเลยการมาตอบคำถาม และเชื่อว่ารัฐบาลจะมีมารยาท ว่าเมื่อการเมืองเข้าสู่เวลาตามรัฐธรรมนูญ จะต้องให้ความร่วมมือเข้ามาชี้แจงก่อนที่จะหมดสมัยประชุม