เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวชุม ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายธวัช อายุ 57 ปี ว่าตนเองได้ใช้อาวุธปืนยิงนายภูริณัฐ อายุ 30 ปี บุตรชาย เสียชีวิต ในป่าสวนยางเชิงเขา หมู่ 2 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุในสวนยางพารา พบศพนายภูริณัฐ อายุ 30 ปี บุตรชายนายธวัช นอนจมกองเลือดในร่องสวนยางพารา สภาพศพคาดไฟฉายสำหรับกรีดยางบนศีรษะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตามร่างกายหลายนัด ใกล้กันพบมีดกรีดยางและมีดพร้าตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้กู้ภัยฯ นำศพส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

ส่วน นายธวัช บิดาของผู้ตายและเป็นผู้ก่อเหตุ และเป็นผู้แจ้งเหตุ พร้อมนำอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ที่ยิงลูกชายเสียชีวิต มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้การในเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหลังเที่ยงคืน นายภูริณัฐ ขึ้นไปกรีดยางพาราในสวน และในเวลาห่างกันไม่นาน ตนซึ่งเป็นบิดาได้ตามไปขึ้นกรีดยางเช่นเดียวกัน และเมื่อนายภูริณัฐ พบหน้าตน ก็แสดงอาการไม่พอใจจนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง นายภูริณัฐ ผู้ตายใช้มีดกรีดยาง และมีดพร้าคู่กายคมกริบ 1 เล่ม ได้พุ่งเข้ามาจะทำร้ายตน ในขณะที่ตนพยายามวิ่งหนีตาย ไปตามร่องสวนยาง ก่อนจะตัดสินใจชักปืนพกสั้น 9 มม. ที่พกพาติดตัว รัวยิงใส่นายภูริณัฐ ลูกชาย จนล้มคว่ำเสียชีวิตทันที ก่อนจะเดินลงจากภูเขา เข้าแจ้งความและมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ เนื่องนายภูริณัฐ ผู้ตาย เสพยาเสพติดงอมแงม จนมีอาการหลอนและคลุ้มคลั่งพยายามทำร้ายคนในครอบครัวและชาวบ้านบ่อยครั้ง จนกลายเป็นปัญหาในครอบครัว นายธวัช บิดา จึงได้ไปหาอาวุธปืนมาพกพาติดตัว เพื่อป้องกันตัวและสยบคลั่งนายภูริณัฐ หากมีอาการคลุ้มคลั่ง และสั่งให้คนในครอบครัวระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่รู้ว่านายภูริณัฐ จะมีอาการคลั่งยาเสพติดเมื่อไหร่ กระทั่งมาเกิดเหตุในวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธวัช ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป