สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ว่านายเซบาสเตียน เลอคอร์นู รมว.กลาโหมฝรั่งเศส กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง “ไม่ปฏิเสธแนวคิด” การส่งทหารเข้าไปในยูเครน ว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงสมมุติฐาน และจนถึงตอนนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสไม่มีแผนดำเนินการเรื่องนี้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ทุกภาคส่วนในฝรั่งเศส “ไม่ต้องการเข้าร่วมโดยตรง” ในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน


ทั้งนี้ทั้งนั้น เลอคอร์นูกล่าวถึง “แนวทางใหม่” เพื่อการนำไปสู่ชัยชนะเหนือรัสเซีย โดยนอกเหนือจากการมอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน ฝรั่งเศสอาจมอบความช่วยเหลือด้านการเก็บกู้วัตถุระเบิด และการฝึกฝนทางยุทธวิธี “ให้แก่ทหารยูเครน บนแผ่นดินยูเครน”


อย่างไรก็ตาม นายเดวิด คาเมรอน รมว.การต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า รัฐบาลลอนดอนคัดค้านการส่งทหารตะวันตกเข้าไปในยูเครน เนื่องจากจะกลายเป็น “เป้าหมาย” ให้กับทหารรัสเซีย ส่วนการฝึกฝนทางยุทธวิธีให้แก่ทหารยูเครน ควรเกิดขึ้นนอกอาณาเขตยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพสหราชอาณาจักรดำเนินการอยู่


ด้านแหล่งข่าวในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันการมอบความสนับสนุน “อย่างไม่มีขีดจำกัด” ให้แก่ยูเครน ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นไปตามสิทธิอันชอบธรรมของรัฐบาลเคียฟ ในการปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย แต่นาโตและพันธมิตร “ไม่มีนโยบาย” ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปในยูเครน ขณะที่สหรัฐยืนกราน ไม่มีการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างเด็ดขาด


ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การแสดงเจตจำนงเตรียมส่งทหารเข้าสู่สมรภูมิยูเครนของสมาชิกนาโตบางประเทศ “จะเป็นการเพิ่มองค์ประกอบใหม่ที่สำคัญเข้าสู่สงคราม” รัสเซียขอให้ประเทศที่ต้องการเข้าร่วม “คิดให้รอบคอบก่อน” ว่า “การเผชิญหน้าทางทหารสอดคล้องกับผลประโยชน์ของตัวเองจริงหรือไม่”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES