เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่บริเวณริมหนองน้ำสาธารณะหนองสูง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “โฮมเหง้าเผ่าผู้ไทย ไหว้พระไกรสรราชเมืองหนองสูง ประจำปี 2567” และงาน “วันผู้ไทโลก เท่อที่ 13” โดยมีนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร ท่านคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ท่านสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พันตำรวจโท ดร.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ดร.วิทยา อินาลา นายกสมาคมผู้ไทโลก ภาคีเครือข่าย และประชาชนเชื้อสายภูไทจากประเทศเวียดนาม สปป.ลาว และจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยกว่า 2,000 คน ร่วมงาน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากกับการมาชุมนุมพร้อมกันของชาวผู้ไท (ภูไท) ในวันผู้ไทโลก โดยมีพี่น้องชาวอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับชาวภูไทจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และต้อนรับแขกเหรื่อจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งทุกคนต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุข แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ พวกเราโชคดีที่แม้ว่าตามตำนานเมื่อ 180 ปีที่แล้ว พวกเราจะต้องอพยพทิ้งถิ่นฐานเพราะศึกสงคราม แต่พวกเราได้มาอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐในประเทศไทย

“วันนี้ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยได้มีโอกาสมาอยู่ท่ามกลางพี่น้องชาวผู้ไทจากทั่วทุกสารทิศที่มาชุมนุมกันด้วยความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การสร้างความรักความสามัคคีในชาติพันธุ์ของผู้ไท และยิ่งเป็นที่น่าประทับใจที่พวกเราทุกคนได้ช่วยกันสร้างครอบครัว สร้างฐานะ สร้างรากฐานของชีวิตไว้ให้ตนเองและลูกหลาน และที่สำคัญที่สุดที่หาได้ยากในประเทศนี้และโลกนี้ คือ ชาวผู้ไทไม่ลืมรากเหง้า ชาวผู้ไทยังมีโฮมเหง้า เกิดการสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามของชาวผู้ไท เฉกเช่นเด็กตัวน้อย ๆ อายุ 7 ขวบที่มาร่วมรำในวันนี้ก็ยังได้รับการถ่ายทอดสิ่งที่ดี สิ่งเหล่านี้คือความสุขที่เราได้เห็นลูกหลานของเราไม่ทิ้งสิ่งที่เป็นรากเหง้า อันเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์อยากจะให้ประเพณีวัฒนธรรมสิ่งที่ดีงามที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละตำบล แต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชน กลายเป็นสิ่งที่ใช้ขับเคลื่อนดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยว ให้เกิดการแลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรม หรือที่เราเรียกว่า Soft Power ซึ่งจังหวัดมุกดาหารถือว่าโชคดีเพราะชาวผู้ไทช่วยทำให้นโยบายรัฐบาลนี้สามารถขับเคลื่อนไปได้ก่อนคนอื่น เพราะ 180 ปีที่ผ่านมาพวกเรายังช่วยกันรักษาความสามัคคีของหมู่คณะไว้ได้ สะท้อนจากการที่เราสามารถเชิญชาวผู้ไทจาก สปป.ลาว ประเทศเวียดนาม และท่านนายกสมาคมผู้ไทโลกยังเน้นย้ำว่า ต่อไปจะเชิญมาจากทั่วโลก เพราะชาวผู้ไทกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศต่าง ๆ เยอะ และที่สำคัญที่สุดการรวมตัวนี้จะช่วยทำให้เกิดแรงดึงดูด ยิ่งกว่าคำว่าบุพเพสันนิวาส ยิ่งกว่าแม่เหล็กที่ดึงดูดใจให้เราที่ไม่ใช่เชื้อสายชาวผู้ไทได้มาเยี่ยม มาเที่ยว มาให้กำลังใจ และมารับสิ่งที่ดี ๆ ไป ทั้งมิติด้านอาหาร ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเป็นกำลังใจให้พวกเราได้ช่วยกันอนุรักษ์ รักษา สืบทอด ไปยังลูกหลานเพื่อให้ชาวผู้ไทเป็นอมตะอยู่ชั่วนิรันดร์กาล และขอเป็นกำลังใจให้สมาคมผู้ไทโลกได้ทำให้ชาวผู้ไทช่วยกันสืบสาน รักษา และต่อยอด จิตใจอันดีงามของชาวผู้ไทที่รักสามัคคีและเป็นผู้มีจิตใจดีงาม และมีของดี ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความเลื่อมในศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาและทุกศาสนา ดูแลสถาบันครอบครัวให้มีความสุข มีลูก มีหลาน มีการถ่ายทอดสิ่งที่ดีจากรุ่นสู่รุ่นตลอดไปอย่างยั่งยืน

ด้านนายวรญาณ กล่าวว่า อำเภอหนองสูงเป็นอำเภอที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ซึ่ง “ชนเผ่าผู้ไท” มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่บริเวณเมืองแถง หรือเมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ต่อมาได้อพยพมาอยู่เมืองวัง เมืองคำอ้อ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว กระทั่งสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท้าวศรีหะนาม เจ้าเมืองคำอ้อ ได้นำผู้คนอพยพข้ามแม่น้ำโขงมาอยู่ประเทศไทย เจ้าเมืองมุกดาหารได้อนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ดงบังอี่ และตั้ง “เมืองหนองสูง” ตรงกับวันที่ 9 สิงหาคม 2387 โดยมีสารตราตั้งเมืองและเจ้าเมือง โดยตั้งท้าวสีหะนามเป็นเจ้าเมืองหนองสูง ชื่อ “พระไกรสรราช” ขึ้นกับเมืองมุกดาหาร ดังนั้น จนถึงวันนี้เมืองหนองสูงได้ก่อตั้งมาแล้ว 180 ปี ซึ่งปัจจุบันชาวอำเภอหนองสูงได้มีรูปปั้นอนุสาวรีย์พระไกรสรราชเพื่อเคารพสักการะ กราบไหว้ 2 แห่ง คือ บริเวณริมหนองน้ำหนองสูง และริมถนนหลวงหน้าที่ว่าการอำเภอหนองสูง ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีอำเภอหนองสูงจึงได้กำหนดจัดงานประจำปีของอำเภอขึ้น ในชื่อว่า “งานโฮมเหง้าเผ่าผู้ไทย ไหว้พระไกรสรราชเมืองหนองสูง” และปีนี้เป็นปีสำคัญที่ทางสมาคมผู้ไทกำหนดจัดงาน “วันผู้ไทโลกเท่อที่ 13” ในปี 2567 โดยเวียนมาจัด ณ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ทั้งนี้ มีพี่น้องชาวผู้ไทจาก 10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร นครพนม กาฬสินธุ์ สกลนคร ร้อยเอ็ด บึงกาฬ อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ จังหวัดยโสธร และจาก 2 ประเทศ คือ เวียดนาม และ สปป.ลาว ร่วมกับพี่น้อง 6 ตำบลของอำเภอหนองสูง กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม 2567

“การจัดงาน “โฮมเหง้าเผ่าผู้ไทย ไหว้พระไกรสรราชเมืองหนองสูง ประจำปี 2567” และงาน “วันผู้ไทโลก เท่อที่ 13” มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติเจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองหนองสูง ชื่อว่า “พระไกรสรราช” 2. เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของพี่น้องชาวอำเภอหนองสูง 3. เพื่ออนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าผู้ไทยอำเภอหนองสูงจากรุ่นสู่รุ่นสืบไป 4. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP ของดีอำเภอหนองสูง โดยมีกิจกรรมในงาน ประกอบด้วย (1) กิจกรรมการเดินแบบผ้าไทย ผ้าพื้นเมืองอำเภอหนองสูง (2) การจัดขบวนแห่ศิลปะวัฒนธรรมผู้ไทยเมืองหนองสูง และการทำซุ้มศิลปะวัฒนธรรมประเพณีชนเผ่าผู้ไทยจากจังหวัดต่าง ๆ 10 จังหวัด และผู้ไทจาก สปป.ลาว และประเทศเวียดนาม (3) การประกวดขบวนแห่กลองตุ้ม ประกวดอาหารพื้นบ้าน (4) กิจกรรมทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพชนอำเภอหนองสูง พิธีบวงสรวง และรำบวงสรวงอนุสาวรีย์พระไกรสรราช (5) การออกร้านนิทรรศการจำหน่ายสินค้า OTOP เมืองหนองสูง และ (6) กิจกรรมถนนวัฒนธรรมผู้ไทยอำเภอหนองสูง (ถนนคนเดิน)” นายวรญาณ กล่าว

ด้าน ท่านคำพัน กล่าวว่า เป็นบุญที่ได้มาร่วมงานนี้ เป็นงานที่อลังการที่สุด ชาวผู้ไทมีประวัติความเป็นมายาวนาน ทั้งนี้ นโยบายรัฐบาล สปป.ลาว และราชอาณาจักรไทย ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2567 นี้จะครบ 2 ปีที่เรายกระดับความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และเรามีแผนปฏิบัติการ 5 ปี ร่วมกันระหว่างประเทศกับประเทศ จังหวัดกับแขวง อำเภอกับเมือง โดยมีสถานเอกราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย และสถานกงสุล สปป.ลาว ณ ขอนแก่น เป็นกลไกประสานงาน โดยเฉพาะจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดนครพนม กับแขวงคำม่วน แขวงสะหวันนะเขต เราจะเป็นเกลอสองฝั่งเมืองในเรื่องการท่องเที่ยว ในเรื่องเศรษฐกิจ การไปมาหาสู่ระหว่างกันเพื่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสถานเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ยินดีที่ได้ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายสนับสนุนการจัดงานนี้ในทุกปี