เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่สำนักงานใหญ่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ, นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และหน่วยงานกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สคบ. กสทช. สมาคมโทรคมนาคม สมาคมธนาคารไทย ผู้ประกอบการโอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือต่างๆ ประชุมหารือแนวทางการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ใช้เวลาในการหารือนานกว่า 3 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม นายประเสริฐ เปิดเผยว่า จากการประชุมใหญ่ในวันนี้ ได้มีมติการประชุมรวมกว่า 8 ข้อ โดย ข้อแรก ตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงการลดปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ภายใน 30 วัน ต้องเห็นจำนวนตัวเลขลดลง รวมถึงภาพรวมที่ดียิ่งขึ้น, ข้อที่ 2 การยกระดับกวาดล้างบัญชีม้า ซึ่งการเปิดบัญชีธนาคาร ต่อไปนี้จะอยู่ภายใต้เงื่อนไข เช่น หากเกิดปัญหาถูกดูดเงินในบัญชีธนาคารของประชาชนจนสร้างความเสียหาย ธนาคารมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงการเปิดบัญชีที่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการยกระดับ และการรับผิดชอบดังกล่าวต้องรับผิดชอบเป็นเงินและต้องดูเคสบายเคส และมีการตกลงร่วมกันว่าต้องชดใช้เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการระงับบัญชีม้ากว่า 300,000 บัญชี
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ข้อที่ 3 การยกระดับปราบซิมม้า โดยต้องมีเงื่อนไขการเปิดซิมการ์ด หากเป็นบัญชีต้องสงสัย จะปิดบัญชีทันที และผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบเช่นกัน ขณะเดียวกันได้ให้ประชาชนที่ถือครองเลขหมายเกินกว่าห้าเลขหมายขึ้นไปมาลงทะเบียนยืนยันตัวบุคคลให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 ก.ค. ในส่วนของการปราบปรามได้มีการได้ระงับซิมม้าไปแล้วกว่า 8 แสนบัญชี ข้อที่ 4 จากการอภิปรายในสภา ที่มีการพูดถึงการตั้งเสาสัญญาณเถื่อนตามแนวชายแดน ที่ประชุมมีมติร่วมกันในการกวาดล้างเสาสัญญาณ ที่มีการวางสายตามท่อ โดยมอบทางกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการกวาดล้างตามชายแดนทั้งหมด โดยจะมีการกวาดล้างครั้งใหญ่ และข้อที่ 5 ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในไทย ที่มีลักษณะการตั้งแก๊งกระทำการผิดกฎหมาย โดยกรมการปกครองต้องแจ้งให้ทราบ ทั้งการอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหรือโรงแรม รวมถึงขอความร่วมมือในพื้นที่เขตจังหวัด อำเภอและหมู่บ้าน หากพบบ้านใดที่มีข้อมูลผิดสังเกต รวมทั้งการเปิดบัญชีม้า และซิมม้า ให้แจ้งศูนย์ AOC เพื่อดำเนินการต่อไป
รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวอีกว่า ข้อที่ 6 ได้มีการขอความร่วมมือกระทรวงการต่างประเทศ ให้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดไทย เช่น ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และเมียนมา หากสืบสวนพบว่ามีผู้กระทำผิดในประเทศ ต้องแจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนส่งตัวกลับประเทศ ข้อที่ 7 มติการแก้ไขระเบียบของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การควบคุมซื้อขายคริปโต ซึ่งขณะนี้มีบัญชีที่แปลงสกุลเงินเพื่อปิดบังเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมายดังกล่าวจำนวนมาก โดยจากที่ประชุมมีมติให้พิจารณาออกระเบียบและกฎหมายเพื่อแก้ไข การแปลงเงินเป็นสกุลดิจิทัล ให้กฎหมายดำเนินการได้ และข้อที่ 8 การหลอกลวงการซื้อสินค้า ทั้งบุคคลและการกระทำเป็นขบวนการ เนื่องจากสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากแก่ประชาชน จึงมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกระเบียบให้เสร็จสิ้น ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม โดยออกระเบียบค่าสินค้า หากพบผิดปกติให้ชะลอการจ่ายเงินภายใน 5 วัน
อย่างไรก็ตามเป็นมาตรการที่กำลังดำเนินการและจะมีการสรุปภายในสัปดาห์หน้า โดยการดำเนินการปราบปรามที่ต้องอาศัยข้อมูล เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ และดำเนินคดีต่อไป
