เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่รัฐสภา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตาม มาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค. นี้ ว่า พร้อมมาก ขณะนี้มี สว. เข้าชื่อ 36 คน โดย สว. ได้อภิปรายทั้งหมด 12 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาลขออภิปราย 3 ชั่วโมง ซึ่งในการอภิปรายจะมีประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ไม่ทราบว่าผู้ที่จะอภิปรายจะกลัวนายทักษิณฟ้องหรือไม่ ซึ่งคิดว่าทุกคนคงต้องพร้อม โดยเฉพาะตนเองพร้อมมาก เพราะสิ่งที่ไม่ถูก ไม่ต้องปล่อยกันอย่างนี้ จะไปสอนลูกหลานอย่างไร ถ้าหากว่าละเมิดกฎหมายทุจริตกันแล้ว กลับบ้านหน้าตาเฉย แล้วยังให้ลูกน้องส่งสัญญาณว่าถ้าใครพูดเรื่องนี้จะฟ้อง ตนคิดว่าจากความกลัวก็จะกลายเป็นไม่กลัวแล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบ มีอดีต สส. คนหนึ่งลงภาพนายทักษิณเตะกระสอบทราย แล้วกลับมาถึงไทยก็ป่วย ตนไม่ทราบว่านายทักษิณหรือลูกน้องนายทักษิณ ที่เดือดร้อนแทนนาย ได้ดำเนินการฟ้องร้องกันแล้ว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึง กรณีที่นายทักษิณมีกำหนดการเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ ว่า นายทักษิณเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก การแสดงแบบนี้ได้ไปไหนต่อไหนได้ ตนไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการพูดคุยกับใคร ตกลงกับฝ่ายไหน หรือไปดีลกับใคร ตนไม่ทราบจริงๆ แต่เราในฐานะที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยก็ต้องเอาความจริงบอกพี่น้องประชาชนและคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ความจริงก็คือต้องบอกความจริงกับประชาชน
เมื่อถามว่า กำหนดการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ก็ไป จ.เชียงใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกับนายทักษิณด้วย นายกิตติศักดิ์ ถามกลับว่า นายกรัฐมนตรีคนไหน เห็นเขาว่ามีตั้งหลายคน นักข่าวจึงตอบกลับไปว่านายเศรษฐา นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความบังเอิญมันไม่มี มีแต่การวางแผนกันไว้ทั้งนั้น แต่ก็ต้องเห็นใจนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ที่ท่านก็ตระเวนไปรอบโลก สื่อมวลชนหรือประชาชน ก็เห็นมาว่าเอาสาระไม่ค่อยจะได้ เป็นประโยชน์อะไรกับประชาชนในการที่ใช้งบประมาณไปรอบโลก ซึ่งใช้งบประมาณมาก แต่ผลงานที่จะได้นั้น ยังจับต้องไม่ได้”
นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกองเชียร์จะไปต้อนรับนายทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะกิตติศักดิ์ไปก็มีคนชอบไปรับ แต่การที่ไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้สึกแปลก เพราะมีเอฟซี ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือนายเศรษฐา หรือว่าที่นายกรัฐมนตรี อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปไหนก็ต้องมีเอฟซี เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผู้ที่ไปที่มีตำแหน่งนั้น มีความละอายใจหรือไม่เหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ต้องคิดและพิจารณา.
