เมื่อวันที่ 11 มี.ค. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ถูกกลุ่มนักเรียนหญิงรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน เพราะไม่ยอมให้แอบถ่ายในห้องน้ำ ว่า  ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเยาวชน จึงมอบหมายให้สำนักงานยุติธรรม จ.นครศรีธรรมราช ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ได้แจ้งสิทธิและหลักเกณฑ์ในการยื่นขอรับค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 เพื่อประสานงานการแจ้งสิทธิและหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหายทราบด้วย และให้ช่วยดำเนินการในเรื่องเอกสารทางคดีที่เกี่ยวข้อง กรณีที่ผู้เสียหายต้องการจะยื่นขอรับความช่วยเหลือ

น.ส.เกณิกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมได้ติดต่อถึงผู้ปกครองของผู้เสียหาย เพื่อสอบถามเหตุการณ์และให้กำลังใจแก่ครอบครัวของผู้เสียหาย อีกทั้งให้คำปรึกษากฎหมายเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินคดี แนะนำช่องทางในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งผู้เสียหายสามารถเรียกร้องให้คู่กรณีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 “ในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ผู้เสียหายซึ่งมีสิทธิที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทน เพราะเหตุที่ตนได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำผิดอาญาของจำเลย ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนก็ได้” และหากไม่ได้ดำเนินการเรียกค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ก็สามารถฟ้องคดีแพ่งได้ภายในอายุความ 1 ปี

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า ทั้งนี้ หากกรณีผู้เสียหายไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้แนะนำการจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นคำขอรับความช่วยเหลือจาก พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรมในกรณีขอค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลในการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวด้วย