วันที่ 12 มี.ค. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบในหลักการการดำเนินการมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ ทั้งมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ มาตรการลดหรือยกเว้นอากรขาเข้างานศิลปะ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเห็นชอบในรายละเอียดต่อไป

สำหรับสาระสำคัญประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ 1.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ เพื่อส่งเสริมตลาดการซื้อขายศิลปะ ซึ่งจะทำให้ศิลปินในประเทศไทยผลิตงานศิลปะเพิ่มมากขึ้น และส่งเสริมการจัดแสดงงานศิลปะในประเทศไทย อันจะทำให้การท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น จึงเสนอให้ผู้มีเงินได้แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้องานศิลปะด้านจิตรกรรมหรือประติมากรรมในราชอาณาจักร ในลักษณะการยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้องานศิลปะดังกล่าวมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทในปีภาษี สำหรับการซื้องานศิลปะตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติถึงวันที่ 31 ธ.ค. 69 โดยคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ปีละ 20 ล้านบาท โดยคำนวณจากผู้ใช้สิทธิปีละ 1,000 ราย ซึ่งมีอัตราการเสียภาษีที่แท้จริง 20%

2.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ศิลปินในการสร้างงานศิลปะ และส่งเสริมงานศิลปะของศิลปินไทย จึงเห็นควรบรรเทาภาระภาษีให้แก่ศิลปินในประเทศไทย โดยเสนอให้ผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากรที่เป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระประณีตศิลปกรรม สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็นร้อยละ 60% เป็นการถาวร โดยไม่กำหนดประเภทศิลปิน คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ปีละ 20 ล้านบาท โดยคำนวณจากผู้มีเงินได้จากวิชาชีพอิสระประณีตศิลปกรรม ในปี 65 มีจำนวน 1,416 ราย

3.มาตรการลดหรือยกเว้นอากรขาเข้างานศิลปะ เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนในการผลิตงานศิลปะ และลดต้นทุนในการนำเข้างานศิลปะเพื่อนำมาจัดแสดงงานศิลปะระดับประเทศและระดับนานาชาติในประเทศไทย จึงเสนอให้มีการลดหรือยกเว้นอัตราอากรสำหรับงานศิลปะ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ

4.มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการจัดกิจกรรมสำหรับรถยนต์โบราณ เช่น การประกวดรถยนต์โบราณ การจัดแสดงนิทรรศการรถยนต์โบราณ การจัดขบวนคาราวานรถยนต์โบราณ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยทุกระดับ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตหรือบูรณะ รถยนต์โบราณในประเทศ เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศไทย จึงเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากสินค้ารถยนต์โบราณ และมีการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้ารถยนต์โบราณเฉพาะรถยนต์นั่งเท่านั้น (ไม่รวมถึงรถจักรยานยนต์และรถอื่น ๆ) ทั้งนี้การสูญเสียรายได้ขึ้นอยู่กับนิยาม หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณลักษณะสำหรับรถยนต์โบราณ