เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้พรรคก้าวไกล ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด กรณีที่ กกต.ส่งเรื่องต่อศาลให้วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล กรณีใช้การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง

นายสนธิญา กล่าวว่า วันนี้ตนมาเรียกร้องให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุม กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ ส่งเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล แต่เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 93 ระบุว่า กกต. นายทะเบียนพรรคการเมืองหรืออัยการสูงสุด สามารถส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคและสามารถพ่วงเรื่องขอให้พรรคการเมืองที่ถูกร้อง ยุติการดำเนินการใดๆ ไปก่อน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่สส.พรรคก้าวไกลยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และพ่วงการขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดย สส. 44 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็มีส่วนร่วมส่งคำร้องกรณี พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน ซึ่งศาลก็มีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ดังนั้นเมื่อกกต.จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ก็ขอให้เสนอเรื่องให้พรรคก้าวไกล ยุติการดำเนินการใดๆ ไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยถึงที่สุด

เมื่อถามว่ามีกระแสจากพรรคก้าวไกล ระบุว่า การยุบพรรคใช้กระบวนการรวดเร็วกว่ากระบวนการพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทยกรณีรับเงินบริจาค นายสนธิญา กล่าวว่า กรณีการยุบพรรคก้าวไกล ที่ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เห็นว่าศาลได้เคยมีคำวินิจฉัยกรณีการชุมนุมเรียกร้อง 10 ข้อของกลุ่มนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปี 2564 โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย​สั่งให้ยุติการกระทำใดๆ อันเป็นการล้มล้างการปกครอง อีกทั้งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ก็มีคำวินิจฉัยเช่นเดียวกัน และการกระทำที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกล ที่ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงการขึ้นเวทีติดสติกเกอร์ มองว่าการกระทำ ณ ขณะนั้นสำเร็จแล้ว มีความชัดเจนแล้ว

และในกรณีนี้ที่ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ส่วนหนึ่งก็ได้อ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ด้วย อีกทั้งพรรคก้าวไกลไม่ได้แสดงเจตนาในขณะนี้เลยว่าพร้อมที่จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการกระทำอันขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 211 ซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร ตนจึงเชื่อมั่นว่า หากพรรคก้าวไกล แสดงพฤติกรรมหรือท่าทียอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และพร้อมที่จะแก้ไขลดเพดานการแก้ไข มาตรา 112 เชื่อว่าจะไม่มีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งข้อเท็จจริงในประเด็นนี้มีความชัดเจนในทุกอณูของคำวินิจฉัย โดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 ครั้ง และรวมถึงหลักฐานการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นของพรรคก้าวไกล  อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่พรรคก้าวไกลจะชี้แจงก็สามารถส่งให้เรื่องศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เชื่อว่าศาลก็พร้อมที่จะฟัง โดยไม่จำเป็นต้องออกมาพูดข้างนอกถึงการทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าเป็นการดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือ

เมื่อถามว่า นักวิชาการมองว่าการยุบพรรคก้าวไกลจะทำให้มีการเคลื่อนไหวทำงานการเมืองอย่างต่อเนื่อง นายสนธิญา กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลถูกยุบเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีใครกลั่นแกล้ง หากพรรคก้าวไกลไม่ดำเนินการ ก็จะไม่มีผู้มาร้องและผู้ที่มาร้องก็มีหลักฐานและเหตุผลประกอบให้ กกต.พิจารณา อีกทั้งการร้องยุบพรรคการเมืองไม่ได้ร้องเป็นครั้งแรก ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ และให้เข้าใจว่ากระบวนการเหล่านั้นเป็นไปตามกฎหมาย แล้วตราบใดที่พรรคก้าวไกล ยังดำเนินการขัดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญก็จะถูกยุบหรือ ก็จะถูกยุบหรือตัดสิทธิทางการเมืองไปเรื่อยๆ.