เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 17 มี.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางมายังบ้านดอนหลวง ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พร้อมด้วยนายสุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ รมว.คมนาคม​ เพื่อพบปะประชาชน  โดยนายกฯ เดินถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอต้อนรับบริเวณด้านหน้า และรับมอบผ้าพันคอ ก่อนที่จะเดินเข้ามายังภายในวัดดอนหลวง รับฟังบรรยายสรุปปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจ.ลำพูน

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมบูธต่างๆ โดยมีตัวแทนมอบเสื้อลายงัวน้อย ซึ่งเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ของ จ.ลำพูน ให้นายกฯ ได้ลองสวมใส่เป็นนายแบบด้วย ก่อนที่นายกฯ จะเดินมายังบูธถัดไป เพื่อชิมมะม่วงจักรพรรดิ ก่อนที่จะสอบถามว่าสามารถส่งออกขายยังต่างประเทศได้หรือไม่  และชิมทองม้วนจากมะม่วง​ ก่อนรับมอบภาพวาดเหมือนนายกฯ ที่ใช้สีจากครามธรรมชาติเขียนลายบนผ้า รวมไปถึงกระเป๋าเพนท์ลายสีจากครามด้วย

ต่อมานายกฯ สักการะองค์พระประธาน บนอุโบสถวัดดอนหลวง พร้อมกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดดอนหลวง ต.แม่แรง อ.ป่าซาง  ซึ่งเจ้าอาวาสได้สะท้อนปัญหาเรื่องไฟฟ้าริมทางและการปรับปรุงถนน​​ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก​ให้กับนักท่องเที่ยว​ ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ทาง สส.ลำพูน เสนอเรื่องเข้ามายังคณะรัฐมนตรี​ (ครม.) ก่อนที่เจ้าอาวาสได้มอบแท่น​พิมพ์​พระรอด​ลำพูน​ พร้อมกับกล่าวกระเซ้านายกฯ ว่า “ของจริงไม่มีแล้ว​ หากมีคงรวยไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่​ และขอให้นายกฯ อยู่บริหารประเทศครบ 4 ปี”

จากนั้นพระสงฆ์นำสายสิญจน์ผูกข้อมือ พร้อมทำพิธีปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยให้กับนายกฯ ก่อนมอบพระคริสตัล​ รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยให้นายกฯ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้มอบพระเชียงแสนสิงห์ 3 ขนาดหน้าตัก 15 นิ้ว ซึ่งทำจากไม้ศรีมหาโพธิ์ ให้นายกฯ ด้วย

โดยนายกฯ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับ ว่า สวัสดีพี่น้องชาวลำพูนทุกท่าน วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเยือน ช่วงเลือกตั้งไม่ได้มาเลย วันนี้มาเป็นรัฐบาลได้ 6 เดือนกว่า ดีใจที่ได้มาเยือน จ.ลำพูน และจากการฟังผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนรายงานมีเรื่องดีๆ หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นความสะอาด 5 ปีซ้อนที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ และต้องยกความดีความชอบให้กับพี่น้องประชาชนชาวลำพูนทุกคนที่มีจิตใต้สำนึกที่ดี ทำให้เป็นเมืองที่สะอาดได้รับการยอมรับมา 5 ปีซ้อน ฉะนั้นเชื่อว่ารายได้ต่อหัวหรือจีดีพี จ.ลำพูนสูงสุดในจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัดไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ การที่เรามีจังหวัดที่สะอาด พืชผลที่ดี แหล่งท่องเที่ยวที่ดี เช่น ลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญสุดของ จ.ลำพูน หากผลิตผลออกมาดี มีตลาดชัดเจนเชื่อว่ารายได้พี่น้องประชาชนจะสูงขึ้น รัฐบาลนี้ โดย สส.ลำพูน ได้ผลักดันยุทธศาสตร์ลำไยเข้าสู่สภาแล้วอยู่ในช่วงดำเนินการ เชื่อว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า การที่เรามี 17 จังหวัดภาคเหนือรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานด้วยกันอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.เชียงราย และภาคเหนืออีกหลายจังหวัดจะรวมตัวกันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหลัก​ แม้ว่าเชียงใหม่จะเป็นเมืองหลัก​ ลำพูนเป็นเมืองรอง

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ​ ตนยืนยันว่าเป็นต้นเหตุของความหายนะของประเทศ หากดูจากตัวเลขใน จ.ลำพูน ถือว่ายังต่ำ​ จึงต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตลาดนัดหนี้นอกระบบตนอยากให้ทางอำเภอ​ ทางผู้กำกับ​  และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)​ ทำงานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น  และขอฝากว่าให้ทำงานให้เข้มแข็งขึ้น เข้าใจว่ามีภารกิจเยอะ​ แต่ขอให้ทำงานเข้มแข็งขึ้น เนื่องจาก หนี้นอกระบบเป็นตัวร้ายที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนานและเป็นสารตั้งต้นของภัยพิบัติอีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม​ ขอให้เป็นเรื่องที่ทางการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก 

“วันนี้ดีใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าฝ้ายของ จ.ลำพูน เป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งผมเดินทางไปต่างประเทศก็พยายามผลักดันสินค้าไทยจากทุกภูมิภาคจากทุกจังหวัดที่ไป​ วันนี้เดี๋ยวช่วงตอนบ่ายจะไปเดินเซ็นทรัลเชียงใหม่ช่วยโปรโมตผ้าพื้นเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เราจะให้ความสำคัญและสั่งการไปยังกระทรวงพาณิชย์และมหาดไทยให้มีการพัฒนาภาคเหล่านี้ออกมาเจาะหาตลาดใหม่ๆ  และขอโทษที่ไม่ได้มาเร็วกว่านี้ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่ได้มา วันนี้ก็ถือว่าเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกท่าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่กลุ่มเกษตรกรสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) ได้ถือป้าย โดยมีข้อความระบุว่า “พ.ร.บ.ลำไย” คือ หัวใจของเกษตรกร การแก้ปัญหาลำไยต้องจบในรัฐบาลนี้ พร้อมยื่นหนังสือให้กับนายกฯ ก่อนกล่าวว่า “ขอให้อยู่ไปนานๆ เพื่อเป็นกำลังใจพี่น้องเกษตรกร”  

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมการผลิตผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของพื้นที่ชุมชน​ สวมงอบ​ และเซ็นลายเซ็นบนภาพวาดเหมือนให้กับประชาชน​  พร้อมร่วมถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง.