นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวคิดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาจไม่ให้นำเข้าข้าวโพดที่ปลูกในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกดดันให้ลดการเผา หวังแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ปัญหาฝุ่นควันเป็นเรื่องซับซ้อนต้องใช้หลายมาตรการควบคู่กันไป โดยมาตรการห้ามนำเข้าข้าวโพด ส่วนตัวเข้าใจว่า อาจจำเป็นที่จะต้องทำ  ปัจจุบันไทยมีความต้องการข้าวโพด 8.9 ล้านตัน แต่สามารถผลิตได้เพียง 4.9 ล้านตัน เมื่อมีความต้องข้าวโพดจึงมีราคาดี และข้าวโพดยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหารสัตว์ ไทยอาจใช้การนำเข้าข้าวสาลี มาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ทดแทนไปก่อน เพื่อบรรเทาปัญหากรณีห้ามการนำเข้า

โดยแนวคิดนี้เป็นหนึ่งจากหลายแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ จึงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ให้จัดการปัญหาเผาป่า เผาไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลัง แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนหลักการขององค์การการค้าโลก (WTO)  ซึ่งปัจจุบันระเบียบการค้าโลกปรับเปลี่ยนไป จะไม่ซื้อสินค้าที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือทำลายป่า ดังนั้น หากไทยใช้มาตรการไม่รับซื้อข้าวโพด ก็ต้องสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านปรับตัว

นอกจากนี้ ยังต้องมีมาตรการเพื่อจัดการปัญหาภายในประเทศ ซึ่งได้เริ่มต้นไปแล้วหลายเรื่อง เช่น เสนอเพิ่มรายได้พิเศษจากการเก็บสดข้าวโพดโดยไม่ต้องเผา และจะรีบดำเนินการโดยเร็ว