เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ลงพื้นที่ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้แทนกลุ่มบุคคลที่ได้รับสัญชาติไทยจากการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ราย และผู้แทนเด็กนักเรียนที่มีเลขประจำตัวขึ้นด้วยอักษร G ซึ่งได้รับการพิจารณาสถานะบุคคลเป็นเลข 0 ผ่านโครงการนำร่อง จำนวน 66 ราย รวมถึงได้มอบเงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 (พ.ศ.2559) จำนวน 5 ราย
นอกจากนั้น รมว.ยุติธรรมยังได้ตรวจเยี่ยมการบูรณาการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม อาทิ การตรวจสอบและคัดกรองข้อมูลบุคคล การพิจารณาสถานะและสัญชาติ และการถ่ายภาพเพื่อทำบัตรประชาชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าว พ.ต.อ.ทวีได้เน้นย้ำความสำคัญของการคืนสิทธิ สถานะ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับทุกคน เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชนและสวัสดิการพื้นฐาน เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาล ฯลฯ โดยตัวอย่างความสำเร็จของกิจกรรมในวันนี้เป็นการสะท้อนการบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีบุคคลที่มีปัญหาสิทธิและสถานะอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จ.เชียงราย ที่มีความหลากลายทางพหุวัฒนธรรม จึงควรใช้ความหลากหลายให้เป็นประโยชน์กับการพัฒนาศักยภาพประชาชน การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนพัฒนาให้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในคดีอาญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีครูเข้าเวร แล้วถูกทำร้ายซึ่งเป็นข่าวที่ปรากฏต่อสาธารณชน จึงอยากสื่อสารให้สังคมรับรู้ว่า ปัจจุบันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้สั่งการให้ยกเลิกการเข้าเวรของครูแล้ว เพื่อให้ครูมีเวลาพักผ่อน และทำหน้าที่สอนหนังสือโดยไม่ต้องถูกทำร้าย
ในโอกาสนี้ยังได้แสดงความยินดีกับทุกคนและทุกครอบครัวที่ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และเน้นย้ำว่า “ด้วยความเชื่อมั่นของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม ความโปร่งใส และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตลอดจนการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความสุขมาสู่ประชาขน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการสร้างคนคุณภาพซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศต่อไป“
